นักลงทุนเททิ้งเงินหยวนทรุดอ่อนค่าหนักใน 10 เดือน กลุ่มสถาบันการเงินใหญ่ของจีนชักดาบ

544
0
Share:
นักลงทุนเททิ้ง เงินหยวน ทรุดอ่อนค่าหนักใน 10 เดือน กลุ่มสถาบันการเงินใหญ่ของจีนชักดาบ

นางสาวกฤติกา บุญสร้าง ผู้ชำนาญการงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุนอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ค่าเงินหยวนเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงอ่อนค่าแตะระดับ 7.30 หยวน/ดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติร่วงอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 10 เดือน หลังจากกลุ่มสถาบันการเงินการเงินชื่อดัง จงจื่อ ผิดนัดชำระเงินมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านหยวน หรือกว่า 5 ล้านล้านบาท ปัจจัยลบดังกล่าวยังสอดคล้องกับตัวเลขเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ในเดือนผ่านมารวมถึงแนวโน้มในอนาคตย่ำแย่มากกว่าคาด

ดังนั้น ห้องค้ากสิกรไทยประเมินว่า ในระยะสั้นค่าเงินหยวนมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง ทดสอบระดับ 7.37 หยวน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าที่สุดเป็นประวัติการณ์ แม้ธนาคารกลางจีนจะพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจ และปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง 1 ปี 15 bps ในวันนี้ เหนือความคาดหมายของตลาด รวมทั้งกำหนดค่ากลางเงินหยวนแข็งค่ากว่าตลาดต่อเนื่อง

ในช่วงเช้าวันนี้ 15 สิงหาคม 2023 ธนาคารจีนแผ่นดินใหญ่ หรือพีบีโอซี แถลงว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นระยะ 7 วัน ซึ่งเป็นดอกเบี้ยหลักสำคัญที่สุดในการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศ โดยลดลง 0.1% ลงมาแตะที่ระดับ 1.8% และลดดอกเบี้ยระยะกลางอายุ 1 ปี ซึ่งเป็นดอกเบี้ยหลักสำคัญในการบริหารการปล่อยสินเชื่อระยะกลาง โดยลดลง 0.15% มาอยู่ที่ 2.5% และมีผลทันที การลดดอกเบี้ยดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2020 หรือตั้งแต่เปิดวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ในจีนแผ่นดินใหญ่

สาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ชะลอตัวต่อเนื่อง และเกิดภาวะซบเซา โดยเฉพาะเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานั้น พบว่าตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่ชะลอตัวชัดเจน ได้แก่ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเพียง 3.7% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.3% ตัวเลขยอดขายปลีกเพิ่มเพียง 2.5% ซึ่งแย่กว่าที่คาดไว้ว่าจะขยายตัวที่ระดับ 4% ยอดว่างงานตามเมืองใหญ่เพิ่มขึ้นเป็น 5.3% จากเดือนมิถุนายนที่ระดับ 5.2%

ตลาดสินเชื่อเดือนกรกฎาคมตกต่ำมากที่สุดในรอบ 14 ปี หรือตั้งแต่กรกฎาคมปี 2009 เป็นต้นมา โดยปล่อยสินเชื่อได้เพียง 345,900 ล้านหยวน หรือราว 1.73 ล้านล้านบาท ในขณะที่คาดการณ์ว่าสินเชื่อดังกล่าวในเดือนกรกฎาคมควรทำได้ที่ 780,000 ล้านหยวน หรือราว 3.9 ล้านล้านบาท

สอดคล้องกับกำลังซื้อผู้บริโภคชาวจีนตกต่ำ สะท้อนจากตัวเลขเงินเฟ้อทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิตในเดือนกรกฎาคมลดลงครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี หรือนับตั้งแต่ปลายปี 2020 เป็นต้นมา ส่งผลเศรษฐกิจตีนแผ่นดใหญ่เข้าสู่ภาวะเงินฝืดครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปีด้วย