นักวิชาการจี้ ธปท.ศึกษาการใช้มาตรการ QE – ลดดอกเบี้ยพยุงเศรษฐกิจ

775
0
Share:

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวถึง การเตรียมรับมือกับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 และภัยแล้ง ว่า ธปท. ควรศึกษาเพื่อเตรียมนำเอาการใช้มาตการ QE หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณมากเป็นพิเศษ เพื่อนำมาใช้หากมีความจำเป็นระยะ 1-2 เดือนข้างหน้า หากคาดการณ์ว่าเมื่อไทยเข้าสู่การแพร่ระบาดระยะที่ 3 แล้วไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดจนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง และมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะความถดถอยรุนแรงมากขึ้นจนถึงขั้นเกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ
.
ทั้งนี้หากเศรษฐกิจไทยมีผลกระทบเช่นเดียวกับอิตาลีหรือสหรัฐฯ และไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ มาตรการ QE จะช่วยประคับประคองเศรษฐกิจและชะลอความผันผวนรุนแรงในตลาดการเงินได้มีประสิทธิภาพกว่าการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายตามปกติด้วยการลดอัตราดอกเบี้ย
.
แต่หากควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีในระยะที่ 3 ก็ไม่ต้องนำมาตรการ QE มาใช้ แต่ขอให้คณะกรรมการ ธปท.ศึกษาไว้ก่อน ทั้งมาตรการ QE และการลดอัตราดอกเบี้ยเพราะจะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงได้อีก ช่วยกระตุ้นการส่งออก การท่องเที่ยวได้บ้างและจากความสามารถในการแข่งขันด้านราคาที่ดีขึ้น
.
นอกจากนี้จะช่วยดึงให้ราคาสินค้าเกษตรในรูปเงินบาทปรับตัวสูงขึ้นได้บ้าง โดยมีแรงกดดันเรื่องเงินเฟ้อน้อยมาก เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวอ่อนลงต่ำสุดในรอบหลายปี ส่วนภัยแล้งที่ทำให้ผลผลิตภาคเกษตรลดลงในไทยดันให้ราคาสูงขึ้นนั้นก็จะมีผลต่ออัตราเงินเฟ้อไม่มาก เพราะราคาผลผลิตทางด้านเกษตรกรรมหลายตัวในตลาดโลกยังคงเป็นทิศทางขาลงอยู่
.
สำหรับแนวคิดในการจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้น ต้องไม่ใช้เงินภาษีประชาชนหรือเงินสาธารณะ และหากจะดำเนินการต้องทำอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดการขาดทุนในภายหลัง และการหยุดภาวะตื่นตระหนกจากการเทขายหุ้นอย่างรุนแรงควรใช้มาตรการทางด้านกฎระเบียบ เพราะจะมีต้นทุนต่ำสุดต่อเศรษฐกิจส่วนรวม