นักเศรษฐศาสตร์เตือนเงินดิจิทัล 10,000 บาทน่ากลัวกว่าการแจกเงิน เสี่ยงก่อหนี้เสีย

463
0
Share:
นักเศรษฐศาสตร์ เตือน เงินดิจิทัล 10,000 บาทน่ากลัวกว่าการแจกเงิน เสี่ยงก่อหนี้เสีย

ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ และหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร กล่าวเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านนโยบายเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทย ที่มีเงื่อนไขการใช้ไม่เหมือนเงินบาทอื่นๆ

ประเด็นนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต หรือ digital wallet ต้องคิดหนักๆ เลย เพราะเท่ากับ จะเอาเงินอีกประเภทหนึ่งโยนเข้ามาในระบบ ที่มีเงื่อนไขการใช้ไม่เหมือนเงินบาทอื่นๆ แต่คาดหวังให้ราคาเท่ากับ 1 บาทตลอดเวลา โดยไม่มีกลไกในการแลกเปลี่ยน หรือมีภาระของรัฐค้ำประกัน 100% ตลอดเวลาได้อย่างไร (หรือจะใช้กฎหมายบังคับให้มันเท่ากัน ซึ่งทำไม่ได้แน่ๆ)

สาเหตุจากเงื่อนไขการใช้เงินที่ต่างกัน คนจะตีมูลค่าของเงินไม่เท่ากัน และเมื่อนำมาใช้ ก็จะเกิด “ราคา” ของเงินที่รัฐอาจจะบังคับไม่ได้ และอาจจะ “break the buck” ได้ และเมื่อเกิดขึ้น คนก็จะแห่ทิ้งเงินใหม่กันอย่างรวดเร็ว สร้างปัญหากับความน่าเชื่อถือของรัฐได้

คนอาจจะยอมรับ “เงิน” แต่รับในอัตราที่ไม่เท่ากับ 1 บาท เช่น ขายของ 100 บาท ในราคา 200 เหรียญที่ออกใหม่ หรือมีคนทำธุรกิจตั้งโต๊ะรับแลกเหรียญที่ออกใหม่ ในราคาต่ำกว่า 1 บาท หรือคนรับปฏิเสธการรับเอาดื้อๆ

“ลองนึกภาพถึง stable coin หลากหลายที่ดูเหมือนว่ารักษามูลค่าได้ แต่พอคนเริ่มถามว่า stable coin นั้นมีหลักทรัพย์ค้ำประกันครบไหม หรือกลไกที่ทำให้ราคา stable coin คงที่ ทำงานได้จริงไหม การอธิบายว่า เราสามารถออกสิ่งที่เหมือน “เงิน” โดยไม่ต้องสร้างหนี้ ไม่ต้องขาดดุล ไม่เป็นภาระของรัฐ เป็นสิ่งที่ค่อนข้างน่ากลัว ทั้งจากมุมมองวินัยทางการคลัง และความน่าเชื่อถือของนโยบายทางการเงิน”

นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ และหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ชี้ให้เห็นว่า นโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท อาจจะน่ากลัวกว่าการยอมรับว่า นี่คือการแจกเงิน โดยการขาดดุลและสร้างหนี้เสียอีก และระวังว่าปัญหาจะลามไปจนกระทบราคาทั้งสี่ของเงินบาท เพราะเราไม่อยู่ในสถานะที่สร้าง “เงิน” จากอากาศได้

ทั้งนี้ ย้อนไป พรรคเพื่อไทย เคยอธิบายในเงื่อนไขและรายละเอียดของนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล ว่า เหรียญดังกล่าว ไม่มีความเสี่ยง ไม่มีการเก็งกำไร ไม่มีการถูกทุบ ไม่มีการขาดทุน ไม่สามารถแลกเปลี่ยนด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นได้ อีกทั้ง กระเป๋าเงินดิจิทัล ใช้ระบบ Blockchain มีความปลอดภัยสูงสุด สูงกว่าระบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน รู้เส้นทางการเงินทุกธุรกรรม รู้ผู้รับ รู้ผู้จ่าย เป็นระบบที่มีความโปร่งใสสูงสุด ตรวจสอบได้ทุกธุรกรรม