นายกสมาคมคอนโดเสนอรัฐบาลยกเป็นวาระแห่งชาติ เร่งแก้กฎหมายก่อสร้างให้เอกชนขอผ่านทาง

272
0
Share:
นายก สมาคมอาคารชุดไทย เสนอรัฐบาลยกเป็นวาระแห่งชาติ เร่งแก้ กฎหมายก่อสร้าง ให้เอกชนขอผ่านทาง

นายพีระพงศ์ จรูญเอก นายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยว่า คำสั่งศาลปกครองสูงสุดสั่งเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างคอนโดมิเนียม แอชตัน อโศก ส่งผลกระทบกับความเชื่อมมั่นในตลาดคอนโดฯ อย่างร้ายแรง กระทบต่อผู้บริโภคอสังหาริมทรัพย์ในลักษณะ multiple effect เป็นผลกระทบทวีคูณ เพราะนอกจากผู้ซื้อที่รับโอนกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของห้องชุดแล้ว ยังมีผลกระทบไปถึงสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้โครงการ และผู้เช่าต่างๆ โดยนายกสมาคมอาคารชุดไทยฝากถึงภาครัฐว่าอยากให้ไปแก้กฎหมายที่ดินเวนคืนของรัฐให้สามารถใช้ผ่านทางได้ โดยจะต้องยกระดับให้ความสำคัญเป็นวาระแห่งชาติ นายกรัฐมนตรีนั่งหัวโต๊ะ เพราะต้องมีการประสานการแก้ปัญหาข้อกฎหมายข้ามกระทรวง โดยปัญหานี้ถ้าไม่เร่งทำความชัดเจนโดยเร็วจะมีผลกระทบรุนแรง ซึ่งที่ผ่านมารัฐเป็นผู้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก เพื่อจะทำประโยชน์ให้เศรษฐกิจ แต่ตอนนี้บอกว่าสร้างไม่ได้ และอาจทำให้โครงการที่ขอผ่านทางในอดีตได้รับผลกระทบไปด้วย

ขณะที่นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อนันดาฯ เปิดเผยว่า บริษัทกำลังเร่งพิจารณาหาแนวทางแก้ไข และจะแจ้งให้ลูกบ้านโครงการ “แอชตัน อโศก” ทราบในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ ตามที่ขอเวลาไว้ 14 วันทำการ โดยมีหลายแนวทางที่มีความเป็นไปได้ประกอบด้วย ยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้างใหม่ โดยการซื้อหรือหาที่ดินเพิ่มเติม เสนอให้หน่วยงานภาครัฐแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องผ่านสำนักการโยธา กฎหมายที่เกี่ยวข้องผ่าน รฟม. ประสานเจ้าของเดิมให้ยื่นทบทวนสิทธิที่ดินทางเข้า-ออกจาก รฟม. อย่างน้อย 12-13 เมตร เพื่อให้สามารถขึ้นอาคารสูงและขนาดใหญ่พิเศษได้ และยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้พิจารณาพิพากษาคดีใหม่ ส่วนการหารือกับผู้ว่าฯ กทม. และผู้ว่าฯ รฟม. ได้ส่งหนังสือไปแล้ว คาดว่าจะมีการหารือร่วมกันเร็วๆ นี้

ขณะที่ลูกบ้านแอชตัน อโศก นำโดยนายพรชัย เลิศสถิตยพงศ์ และผู้แทนลูกบ้านแอชตัน อโศก ประมาณ 20 คน เข้ายื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด เพื่อขอให้อัยการสูงสุดช่วยเหลือ โดยชั้นต้นขอให้ทางอัยการฯ ไปเจรจากับ กทม. เพื่อแก้ปัญหาเรื่องทางออก ถ้าหากแก้ไม่ได้ สำนักงานอัยการคุ้มครองผู้บริโภคจะช่วยดำเนินการต่อ ซึ่งจะต้องมีกระบวนการไกลเกลี่ย ถ้ายังแก้ปัญหาไม่ได้ ก็จะต้องใช้สิทธิทางศาล โดยสำนักงานอัยการคุ้มครองผู้บริโภคจะเป็นผู้ยื่อนฟ้องคดีให้