นายกสมาคมประกันชีวิตไทยเผย ธุรกิจประกันครึ่งปีแรกเติบโตติดลบ 3.27%

861
0
Share:

นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า 6 เดือนแรกปี 2563 ตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน ธุรกิจประกันชีวิตมีผลงานเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 285,942 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตลดลง 3.27% เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา จำแนกเป็นเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ จำนวน 76,196 ล้านบาท อัตราเติบโตลดลง 9.29% และเบี้ยประกันภัยรับปีต่อไปจำนวน 209,746 ล้านบาท อัตราเติบโตลดลง 0.88% และมีอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ประกันชีวิต 81%
.
โดยการเติบโตที่ลดลงในช่วงครึ่งแรก ปี 2563 มาจากภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้เกิดมาตรการป้องกันระหว่างประเทศตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา ส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่าง ๆ ทำให้ขาดสภาพคล่อง หลายธุรกิจปิดตัวลงมีคนจำนวนมากว่างงาน สูญเสียรายได้ ผู้บริโภคต้องปรับตัวโดยการประหยัดรายจ่ายส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวเช่นเดียวกับธุรกิจประกันชีวิต
.
โดยเฉพาะช่องทางตัวแทนประกันชีวิตซึ่งเป็นช่องทางหลักที่ไม่สามารถออกไปเสนอขายด้วยวิธี face to face ได้ ซึ่งทางสมาคมได้หารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในการแก้ปัญหาเบื้องต้น โดยการเสนอแนวทางการเสนอขายแบบ Digital face to face ที่ให้ผู้เสนอขายสามารถเสนอขายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้เสียงและภาพให้ถือเสมือนเป็นการพบลูกค้า ในระหว่างสถานการณ์จำเป็น และได้รับความยินยอมจากลูกค้า เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่องไม่หยุดชะงัก
.
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยแวดล้อมของธุรกิจที่ส่งผลให้ยอดขายผ่านช่องทางธนาคารลดลง ภาวะความกดดันจากเรื่องมาตรฐานรายงานทางบัญชีและการเงิน IFRS 17 พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และการเผชิญกับอัตราความเสียหายจากคนกลางและการฉ้อฉลประกันภัย (Fraud & Abuse)
.
สำหรับครึ่งปีหลัง คาดการณ์ว่าเบี้ยประกันภัยรับรวมจะมีการปรับตัวลดลงมากกว่าปี 2562 ที่ผ่านมา โดยมีอัตราการเติบโตลดลงอยู่ระหว่าง 2-5% คิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับรวมประมาณ 580,000-600,000 ล้านบาท สอดคล้องกับการคาดการณ์ GDP ของประเทศที่มีการปรับลดลงประมาณ 6%