นายกฯประยุทธ์ขอแก้ปัญหาความยากจนช่วงที่เหลืออยู่ ย้ำจะไปตามใจทุกคนไม่ได้

380
0
Share:
นายกฯประยุทธ์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่าวันนี้รัฐบาลมุ่งแก้ไขปัญหาความยากจน ด้วยการปรับใช้ข้อมูลที่ทันสมัย นำแผนที่ความยากจนประเทศไทย หรือ TP Map และข้อมูลหลายกระทรวง มาประกอบกัน แบ่งเป็น 5 กลุ่มปัญหา เช่น รายได้ สุขภาพ ที่อยู่อาศัย และ การศึกษา

โดยในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ จะพุ่งเป้าลงไปในพื้นที่ให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม โดยต้องทำอย่างต่อเนื่อง จากในระดับพื้นที่และอำเภอ ทุกกระทรวงจึงต้องสนับสนุนในแผนงานต่างๆ ทั้งแนวปฏิบัติและการใช้จ่ายงบประมาณ ภายใต้งบประมาณปี 2565 ที่มีอยู่ให้ถึงมือประชาชนมากที่สุด เพื่อเสริมความเข้มแข็งให้กับประชาชน

นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่างว่า “จะสามารถลดภาษีได้แค่ไหน ต้องมีการรับฟังเหตุผลรอบด้าน จะตามใจทุกคนไม่ได้ เพราะจะเกิดปัญหาตามมาอีกเยอะ เพราะขณะนี้ใช้วงเงินในการอุดหนุนน้ำมันถึงเดือนละ 3,000 กว่าล้านบาท หากระยะเวลาในการแก้ปัญหายืดไปถึง 6 เดือน ก็จะใช้งบถึง 18,000 ล้านบาท ไหนจะต้องแก้ปัญหาเรื่องแก๊สอีก แต่ย้ำว่าทุกอย่างรัฐบาลจะตรึงราคาไว้ให้มากที่สุด ขอความเข้าใจว่ามีความจำเป็นที่จะต้องบริหารเช่นนี้”

โดยส่วนตัวได้ขอร้องกลุ่มรถบรรทุกไปหลายครั้งแล้ว เห็นว่าเข้าใจไปส่วนหนึ่งแล้ว และที่ผ่านมาก็ได้ทำความเข้าใจมาโดยตลอด พร้อมชี้แจงว่าขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤติหลายด้านด้วยกัน และไม่เคยมีรัฐบาลไหนเจอวิกฤติที่มาพร้อมๆ กัน ทั้งเรื่องโควิด ปัญหาราคาน้ำมัน ราคาพลังงาน การแข่งขันทางการค้า ตั้งแต่เรื่องความมั่นคงในภูมิภาค ความขัดแย้งทางทะเล การแข่งขันการลงทุน

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีศักยพภาพที่ดีอีกมาก ส่วนตัวจะพยายามพูดคุยกับต่างประเทศที่มาพบ และทุกคนต่างชื่นชมประเทศไทยที่แก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง ย้ำว่าไม่ใช่การคุยโวว่าสามารถแก้ปัญหาทุกมิติได้ แต่นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งกำลังจะเกิดสิ่งดีๆ ในประเทศอีกมาก จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้นำเสนอสิ่งดีๆ โดยเฉพาะเมื่อต้องแก้ปัญหา ก็ต้องดำเนินการแก้ไขต่อไป อย่านำปัญหาฝ่ายบริหารกับฝ่ายการเมืองมาขัดแย้งกัน ไม่เช่นนั้นจะเดินหน้าไม่ได้ และก็ไม่มีใครเขาทำกัน จึงขอความร่วมมือทุกฝ่าย

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกันเตรียมแก้ปัญหาของแก๊ส สาเหตุหลักมาจากหลายมิติ ไม่ใช่มาจากไทยอย่างเดียว แต่มาจากต้นทุนทางด้านพลังงานที่ไทยได้พึ่งพาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะวัตถุดิบที่นำเข้ามา ดังนั้น หากไปเปรียบเทียบดูกับรอบบ้าน อยากให้นำไปพิจารณาว่าแต่ละประเทศดำเนินการอย่างไร รวมถึงภูมิภาคประสบปัญหาอย่างไร แม้ประเทศเพื่อนบ้านจะมีราคาน้ำมันถูกกว่าไทย นั่นเพราะมีแหล่งพลังงาน จึงอยากให้เปรียบเทียบดูกับประเทศของตนเองว่ามีแหล่งพลังงานหรือไม่

ทั้งนี้ ขอให้รอการแก้ปัญหาอีกเล็กน้อย แต่ย้ำว่าการดูแล รัฐบาลให้ความสำคัญกับคนที่มีรายได้น้อย ไม่เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกันร่วมแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากสถานการณ์น้ำมันขณะนี้ผกผันมากพอสมควร ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาอีกนาน จึงต้องมาพิจารณาว่าจะนำเงินจากไหนมาอุดหนุนในจุดนี้ โดยจะต้องใช้วิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสม ทั้งการควบคุมราคาน้ำมันดีเซลไม่เกินลิตรละ 30 บาท ปรับสูตรน้ำมัน รวมถึงกำลังพิจารณาเรื่องภาษีสรรพสามิต ซึ่งหากลดลงไปก็จะเกี่ยวพันกับการจัดเก็บรายได้ของรัฐที่จะต้องลดลงไปมาก จึงต้องพิจารณาว่าจะกระทบกับส่วนอื่นๆ หรือไม่