นายกฯลงนามร่วมลงทุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา – เมืองการบิน

574
0
Share:

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าการลงนามสัญญาร่วมลงทุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ระหว่างสํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) และบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จํากัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลตั้งขึ้นเฉพาะกิจโดย กลุ่มกิจการ ร่วมค้าบีบีเอส ผู้ยื่นข้อเสนอเงินประกันขั้นต่ำเป็นผลตอบแทนให้แก่รัฐดีที่สุด เพื่อร่วมกันลงทุนพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก
.
อย่างไรก็ตามการลงนามในวันนี้เป็นการยืนยันในเจตจำนงค์ของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นแนวทางในการลงทุนของรัฐบาลต่อไป ถือเป็นก้าวสำคัญและเป็นมิติใหม่ในการก้าวเดินของประเทศไทย พร้อมยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางทางการบินของภูมิภาค อีกทั้งจะมีความต่อเนื่องในการลงทุนในทุกมิติ ซึ่งรัฐบาลพยายามเร่งรัดในทุกเรื่องเพื่อตอบสนองเป้าหมายที่ตั้งไว้ จึงขอบคุณประชาชนในพื้นที่ที่มีส่วนร่วม
.
ไม่มีอะไรจะทำได้นอกจากการคิดใหม่ ทำใหม่ บูรณาการในสิ่งใหม่ๆ ก็จะทำให้การทำงานลุล่วงได้ ถ้าเรามีปัญหาอุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรต้องเร่งแก้ไข คาดหวังว่าสิ่งที่ทำในวันนี้จะเป็นประโยชน์เพื่ออนาคต โครงการนี้มีอายุสัญญาโครงการกว่า 50 ปี พวกเราใครจะอยู่ก็อยู่ ผมก็หวังว่าจะอยู่กันได้ทุกคน แต่ไม่ว่าเราจะอยู่หรือไม่อยู่โครงการนี้ก็จะอยู่คู่กับประเทศยาวนานเป็นร้อยปี
.
สิ่งสำคัญเราต้องเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายทั้ง 13 อุตสาหกรรมให้เกิดขึ้นโดยเร็ว รวมทั้งเมืองอัจฉริยะ ซึ่งทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพราะนี่คือโลกยุคใหม่ อาจไม่ใช่แค่หลังโควิด-19 เพราะถึงอย่างไรก็ต้องเปลี่ยนแปลง วันนี้ถ้าโลกปรับหรือเปลี่ยน แต่เราไม่ปรับหรือเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ประเทศไทยก็อยู่ไม่ได้
.
ด้านนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก กล่าวว่า โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ถือเป็นหนึ่งในโครงการโครงสร้างพื้นฐานหลัก สําคัญของ อีอีซี มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับสนามบินอู่ตะเภาเป็น สนามบินนานาชาติเชิงพาณิชย์หลัก แห่งที่ 3 เชื่อมสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิด้วยรถไฟความเร็วสูง ทําให้ทั้ง 3 สนามบินสามารถรองรับผู้โดยสารรวมกัน ได้มากถึง 200 ล้านคนต่อปี
.
นอกจากนี้ โครงการฯ จะทําให้เกิดศูนย์กลางการพัฒนาธุรกิจเป้าหมาย โดยเฉพาะการเป็น ศูนย์กลาง อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และ Logistics & Aviation” รวมถึงการเป็นศูนย์กลางของ “มหานครการบิน ภาคตะวันออก ที่ครอบคลุมการพัฒนาพื้นที่เมือง ประมาณ 30 ก.ม. โดยรอบสนามบิน (พัทยาถึงระยอง) ซึ่งเป็นการสานต่อเจตนารมณ์การพัฒนาอีสเทิร์นซีบอร์ดที่ต้องการให้เกิดเป็นเมืองท่าและเมืองธุรกิจสําคัญ ของประเทศไทย
.
โดยเข้าเชื่อมโยงเป็นส่วนขยายของกรุงเทพฯและปริมณฑลไปทางตะวันออกที่สามารถเชื่อมโยงกัน ได้สะดวกทั้งทางน้ำ ทางบกและทางอากาศ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการบินและประตูเศรษฐกิจสู่เอเชีย
.
สำหรับโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาเป็นการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนโดยใช้เงินลงทุนประมาณ 290,000 ล้านบาท รัฐบาลจะได้ประโยชน์ด้านการเงิน 305,555 ล้านบาท ได้ภาษีอากรกว่า 62,000 ล้านบาท จะเกิดการจ้างงาน 15,000 ตำแหน่งต่อปี ระยะเวลา 5 ปี