นายกฯเผย SME ต้องปรับตัว ไม่งั้นก็แข่งกับรายใหญ่ไม่ได้

635
0
Share:

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงหนี้ครัวเรือนของไทยว่า สัดส่วนหนี้ครัวเรือน 34% ของหนี้ครัวเรือน เป็นหนี้จากที่อยู่อาศัย // 18 % จากการทำธุรกิจ // 13 % จากการเช่าซื้อรถยนต์ // 3 % จากบัตรเครดิต // 3 % จากการศึกษา และ 29 %จากหนี้ส่วนบุคคลอื่น ๆ รวมแล้วเป็นหนี้เกิดจากการสะสมสินทรัพย์และรายได้ 65 % แต่ที่เราต้องให้ความสำคัญ คือ หนี้บัตรเครดิต หนี้ส่วนบุคคล หนี้นอกระบบ
.
ส่วนประเด็นเรื่องการเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเองและพวกพ้อง ยืนยันว่าการพบปะพูดคุยกับแต่ละตระกูลทำอย่างเปิดเผย ส่วนตระกูลเหล่านี้จะรวยผิดปกติหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่หากทำถูกกฎหมายก็สามารถดำเนินกิจการได้
.
ส่วนเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นเรื่องของการพัฒนาคุณภาพชีวิต ไว้ซื้อของใช้จำเป็น ไม่ได้ซื้อแค่ในร้านธงฟ้า และปลดล็อคไปแล้ว เช่น ร้านโชห่วยขนาดเล็กในชุมชนต่างๆ ปัจจุบันมีร้านธงฟ้าประชารัฐ 86,784 ร้านค้าทั่วประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้มีรายได้น้อย 14.6 ล้านคน
.
ส่วนเรื่องที่ทำไมธุรกิจเอสเอ็มอีขาดทุน เนื่องจากไม่สามารถปรับตัวตามกลไกตลาดให้อยู่รอดได้ แข่งขันกับทุนใหญ่ไม่ได้ ต้องปรับเปลี่ยนบ้าง ซึ่งรัฐบาลมีแนวทางให้การอบรมให้ความรู้ ถ้าไม่เข้ามาก็แข่งขันไม่ได้ ถ้าให้แบบเดิมก็เหมือนยาชา หรือ ยาพิษด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้นต้องพัฒนาร่วมกันปฏิรูป
.
ขณะที่การใช้มาตรา 44 เลิกใช้ไปตั้งนานแล้ว คสช.ก็เลิกไปแล้ว 7 – 8 เดือน หลายอย่างยกเลิกไป เรื่องเสรีภาพ ไม่เคยบังคับเสรีภาพของใคร เว้นแต่บางช่วงเวลาจำเป็น แต่การมีเสรีภาพแบบไร้ขีดจำกัดไม่ได้ครับ ต้องทำตามกฎหมาย กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับเดียวไม่ได้หรอกครับ ต้องดูกฎหมายลูกอีกหลายพันฉบับ เช่น สิทธิการชุมนุมต้องไม่กระทบกับผู้อื่น ปัญหาจราจร การพูดให้เกิดความแตกแยก ขอให้ระมัดระวัง
.
ขณะที่เรื่องภาษี ต้องปรับปรุงระบบภาษี ตนไม่ต้องการไปรีดภาษีใครเลย แต่ต้องช่วยกันเสียภาษี เพื่อทำอย่างไรให้มีรายได้มากขึ้น จึงต้องมีการพัฒนาระบบภาษี ส่วนการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ต้องแก้ด้วยวิธีการ กลไก โดยกฎหมาย ถ้าจะให้ใช้อำนาจของตน ก็ไม่มีอำนาจขนาดนั้น