น้ำมันดิบตลาดโลกร่วงกว่า 5% ต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ หลังสหรัฐเล็งปล่อยน้ำมันสำรอง
ราคาน้ำมันดิบร่วงลงมากกว่า 5% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ หลังจากที่ประเทศบริโภคประกาศปล่อยน้ำมันจำนวนมากจากปริมาณสำรองฉุกเฉินเพื่อชดเชยกำลังการผลิตที่สูญเสียไปจากรัสเซีย ด้านราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้น 1.32 ดอลลาร์ หรือ 1.3% สู่ 102.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (01.19 GMT) ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.18 ดอลลาร์ หรือ 1.2% สู่ 97.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
หลังจากที่สหรัฐอเมริกาได้ตกลงที่จะปล่อย 60 ล้านบาร์เรล จากการปล่อย 180 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อช่วยลดราคาในตลาด หลังจากการรุกรานของรัสเซีย ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่าแม้จะมีการปล่อยสต็อกน้ำมันฉุกเฉิน แต่กำลังการผลิตยังคงตึงตัว
สตีเฟน อินเนส กรรมการผู้จัดการของ SPI Asset Management กล่าวว่านอกเหนือจากการปล่อยทุนสำรองมหาศาลทั่วโลก การทำลายอุปสงค์และภาวะถดถอยในปัจจุบันเป็นกลไกเดียวในการลดราคาในโลกที่ปราศจากบัฟเฟอร์สินค้าคงคลัง
บาเดน มัวร์ นักวิเคราะห์ของธนาคารแห่งชาติออสเตรเลีย กล่าวว่า การเปิดตัวล่าสุดบวกกับการประสานงานของ IEA เท่ากับ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในกำลังการผลิตเพิ่มเติมตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงสิ้นปี 2565 ซึ่งจะจำกัดราคาในระยะสั้น กำลังการผลิตเพิ่มเติมช่วยลดความเสี่ยงขาขึ้นในระยะสั้นของตลาดและหลีกเลี่ยงความจำเป็นในการลดโรงกลั่นในระยะเวลาอันใกล้ แต่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณสำรองตามที่คาดไว้ ในปี 2566 ได้เพิ่มความตึงตัวของตลาดล่วงหน้า โดยที่แนวโน้มกำลังการผลิตพื้นฐานยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้ความเสี่ยงด้านราคาเป็นขาขึ้น
