น้ำมันดิบส่อผันผวนจากเศรษฐกิจโลกถดถอย จับตาความขัดแย้ง สงครามกระทบอุปทานน้ำมัน

263
0
Share:
น้ำมันดิบ ส่อผันผวนจากเศรษฐกิจโลกถดถอย จับตาความขัดแย้ง สงครามกระทบอุปทานน้ำมัน

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มผันผวน หลังเขตเศรษฐกิจหลักของโลกเผชิญกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเศรษฐกิจจีนยังคงฟื้นตัวช้ากว่าคาดการณ์ อีกทั้งยังต้องจับตาสถานการณ์ความรุนแรงระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์หลังอิสราเอลโจมตีเมือง Jenin ในเขต West Bank ของปาเลสไตน์ด้วยโดรนเป็นครั้งที่ 2 รวมถึงความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กลับมามีความไม่แน่นอนอีกครั้ง ทำให้ตลาดกลับมาจับตาผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันมากขึ้น

โดยภาพรวมสถานการณ์ราคาน้ำมันโลก (วันที่ 26 มิ.ย. – 6 ก.ค. 2566) พบว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 75.22 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งปรับตัวลดจากสัปดาห์ที่แล้ว 1.23 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันเวสต์ เท็กซัสเฉลี่ยอยู่ที่ 69.47 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.74 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

ทั้งนี้ หลังจากที่ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยว่า สถานการณ์เงินเฟ้อในยุโรปยังคงรุนแรง โดยอัตราเงินเฟ้อยังสูงกว่าระดับเป้าหมายที่ร้อยละ 2 กว่า 3 เท่า ทำให้มีความจำเป็นในการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้น โดยตลาดคาดว่าการประชุมในเดือน ก.ค. ECB มีแนวโน้มปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกร้อยละ 0.25 และจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือน ก.ย. หรือ ต.ค. ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ยังคงส่งสัญญาว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปี 2566 แม้ว่าตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนมิถุนายนจะปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ตลาดทั่วโลกกังวลต่อสถาวะเศรษฐกิจถดถอย และกระทบกับความต้องการใช้เชื้อเพลิง

อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาทของไทยอ่อนค่าลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.52 บาท/เหรียญสหรัฐฯ มาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 35.5747 บาท/เหรียญสหรัฐฯ ทำให้ต้นทุนน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นลดลง 0.19 บาท/ลิตร และต้นทุนน้ำมันดีเซลลดลง 0.11 บาท/ลิตร ส่งผลต่อค่าการตลาดเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของน้ำมันกลุ่มเบนซิน และน้ำมันดีเซล อยู่ที่ระดับ 2.44 บาท/ลิตร

สำหรับ ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 16 ก.ค. 2566 กองทุนน้ำมันฯ มีสินทรัพย์รวม 40,175 ล้านบาท หนี้สินกองทุนฯ 90,004 ล้านบาท แบ่งเป็นติดลบจากบัญชีน้ำมัน 4,316 ล้านบาท บัญชีก๊าซ LPG 45,513 ล้านบาท