บริษัทในอาเซียนพร้อมเข้าตลาดหุ้นสหรัฐ ผลตอบแทนดีกว่า น่าสนใจกว่า คาดกวาดเงินได้

229
0
Share:
บริษัท ใน อาเซียน พร้อมเข้า ตลาดหุ้นสหรัฐ ผลตอบแทนดีกว่า น่าสนใจกว่า คาดกวาดเงินได้

ธุรกิจเอกชนชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียนที่ประกอบด้วย 10 ประเทศกำลังเปลี่ยนแผนการระดมทุนด้วยความสนใจอย่างมากที่จะนำบริษัทการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา สาเหตุจากเมื่อเปรียบเทียบผลประโยชน์ และโอกาสการเติบโตระหว่างตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กับสภาวะตลาดหลักทรัพย์ในกลุ่มประเทศอาเซียน พบว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ให้ผลประโยชน์ที่มากกว่า จูงใจและดีกว่า ตั้งแต่ต้นปีนี้ บริษัทสัญชาติอาเซียนที่ไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ประสบความสำเร็จกับราคาหุ้นที่เข้าซื้อขายอย่างคึกคัก ส่งผลให้มูลค่าและขนาดบริษัทสัญชาติอาเซียนมีขนาดใหญ่ขึ้นทันที ซึ่งเทียบชั้นได้กับบริษัทขนาดใหญ่ระดับโลก เช่น หุ้นบริษัทวินฟาสท์ ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีจากเวียดนาม ที่เข้าตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ส่งผลให้บริษัทมีราคาหุ้นพุ่งทะยานถึง 75% ตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นนิวยอร์กในเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา และมีมูลค่ารวมถึงขนาดใหญ่ขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ของบริษัทผลิตรถยนต์โลก

แอลเอสอีจี (LSEG) เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทในอาเซียนเข้าระดมทุนด้วยการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก หรือเรียกว่าตลาดไอพีโอมีมูลค่า 101 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3,636 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังมีมูลค่าต่ำกว่าในปี 2565 ที่มีมูลค่าหุ้นไอพีโอสูงถึง 919 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 33,084 ล้านบาท บรรดาธนาคารและสถาบันการเงินยังคงคาดการณ์ว่ามูลค่าหุ้นไอพีโอของบริษัทจากอาเซียนจะเพิ่มสูงขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า เนื่องจากบริษัทต้องการหาแหล่งระดมทุนใหม่ๆ

ในทางตรงกันข้าม บริษัทสัญชาติจีนแผ่นดินใหญ่ได้ระดมทุนด้วยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา มีมูลค่าในปีนี้จนถึงขณะนี้ 463.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 16,693 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2565

ขณะนี้ บริษัทชั้นนำขนาดใหญ่อย่างน้อย 4 ประเทศจากกลุ่มอาเซียน เช่น ฟันด์ดิ้ง โซซิเอเต้ เป็นธุรกิจแพลตฟอร์มบริการเงินทุนให้ธุรกิจขนาดเอสเอ็มอี ต่อมาเป็นบริษัทชื่อว่า กัชคลาวด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นธุรกิจเกี่ยวกับบันเทิง รวมถึงบริษัทสัญชาติไทยแห่งหนึ่งที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีประกันภัย เป็นต้น ล้วนมีเป้าหมายที่ต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

ดีลอยท์ ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการที่ปรึกษาการลงทุนชื่อดังระดับโลก เปิดเผยว่า บริษัทในกลุ่มอาเซียนที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี เหมืองแร่ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า และพลังงานหมุนเวียน จะเป็นกลุ่มที่ต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นทั้งในประเทศตัวเอง และในต่างประเทศ

ทั้งนี้ ธนาคารวาณิชธนกิจ ซึ่งเป็นธนาคารที่มีเป้าหมายนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า มีจำนวนบริษัทจำนวนมากในกลุ่มอาเซียนที่ต้องการระดมทุนเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ซึ่งคาดว่าจะระดมเงินมีมูลค่าตั้งแต่ 300-1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 10,800-36,000 ล้านบาท ด้วยมูลค่าประเมินของบริษัทในอาเซียนจะมีมูลค่าตั้งแต่ 1,500-8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือตั้งแต่ 54,000-288,000 ล้านบาท