บอร์ดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เตรียมพิจารณาปลดล็อกข้อห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บ่ายสองถึงห้าโมงเย็น

203
0
Share:
บอร์ด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เตรียมพิจารณาปลดล็อกข้อห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บ่ายสองถึงห้าโมงเย็น

นายธนากร คุปตจิตต์ ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย (TABBA) เปิดเผยถึงความคืบหน้าตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายให้เปิดสถานบริการที่ตั้งอยู่ในโรงแรมและสถานบริการที่ตั้งอยู่ในเขตท้องที่กรุงเทพฯ จ.ภูเก็ต และ จ.ชลบุรี โดยกระทรวงมหาดไทย ได้ออกกฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2566 และมีผลบังคับใช้บังคับแล้วเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 นั้น เห็นได้ชัดเจนว่าผลจากการการดำเนินงานในเรื่องนี้เป็นไปตามเจตนารมย์ของรัฐบาลและด้วยความเรียบร้อยเป็นอย่างดี แต่พบว่ายังมีปัญหาและอุปสรรคอื่นที่ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนน และการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ได้แก่ พื้นที่โซนนิ่งของสถานบริการ และสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการไม่ได้รับประโยชน์จากการขยายเวลาปิดของสถานบริการตามกฎกระทรวงดังกล่าว

รวมถึงการที่มีกฎหมายห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลา 14.00-17.00 น. ยังเป็นอุปสรรคและผลกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวเกินควรและไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ดังนั้น กลุ่มของผู้ประกอบการธุรกิจและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและต้องการที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยเร็ว ซึ่งเรื่องนี้กลุ่มภาคอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มจะมีการการยื่นหนังสือต่อ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ รวมทั้ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขอให้พิจารณาทบทวนกฎหมายที่ยังเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวต่อไป เพื่อเป็นการสนับสนุนการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ ผู้ประกอบธุรกิจ และประชาชนในพื้นที่

“ในการเสนอให้มีการปลดล็อก โดยการทบทวนยกเลิกเพิกถอนกฎหมายกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวดังกล่าวแล้ว ทั้งการปลดเวลาห้ามจำหน่าย กำหนดโซนการห้ามขายที่ตรงกับสถานการณ์ปัจจุบัน การขยายเวลาสถารบันเทิงที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และการยกร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องที่อยู่ระหว่างการพิจารณา เป็นต้น โดยภาคเอกชนที่เสนอยังขอยืนยันในการบังคับใช้กฎหมายที่จะเป็นการป้องกันอุบัติเหตุบนถนนและการป้องกันการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับคนอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ อย่างเข้มข้นและมีประสิทธิภาพด้วย เพราะเราคำนึงประโยชน์สาธารณะภายใต้กรอบมิติ ด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง” นายธนากรกล่าว

นอกจากนี้ นายธนากร ระบุด้วยว่าสมาคมฯ อยากให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้โอกาสนี้ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวโดยเร่งวิเคราะห์มาตรการ หรือกฎหมายที่เป็นอุปสรรคหรือไม่จำเป็นและปรับให้สอดคล้องกับบริบทของการท่องเที่ยวด้วย เช่น การห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงบ่ายถึงเย็น เป็นต้น เพราะไม่แค่แต่ชาวจีน นักท่องเที่ยวในหลายประเทศก็คุ้นเคยกับการดื่มเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอลล์ในมื้อของการรับประทานอาหาร และนิยมการดื่มกินในเวลายามดึกด้วย

“ช่วงเวลาเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงอีกไม่กี่วันนี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่เป็นการจับจ่ายใช้สอยและการพักผ่อนท่องเที่ยวของประชาชนทั่วไป รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศประเทศไทย ก็เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่จะสามารถช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศรวมทั้งการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศอีกด้วย คาดว่าเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวจะมีการเติบโตเพราะมีเงินสะพัดทั้งระบบจากการจับจ่ายใช้สอยและการท่องเที่ยว เรามั่นใจว่าตรุษจีนปีนี้ใช้จ่ายมากกว่าปีก่อน ที่ทางวิชาการระบุว่าปีก่อนตรุษจีนใช้จ่ายสะพัด 4-5 หมื่นล้านบาท” นายธนากรกล่าว

อย่างไรก็ตามคาดว่า สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในการประชุมคณะกรรมการวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ จะพิจารณาและขอมติให้ขยายเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลา 14.00-17.00 น. ตามที่มีการข้อเสนอผู้ที่เกี่ยวข้องและสอดคล้องกับนโยบายฟื้นภาคบริการและท่องเที่ยว โดยยังให้ความสำคัญต่อมาตรการควบคุมดูแลความปลอดภัยและเข้มงวดกลุ่มเยาวชน และสถานที่ให้บริการที่ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ หลังจากนี้จะนำมติเสนอคณะกรรมการกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นประธาน พิจารณาเห็นชอบ ก่อนออกประกาศโดยกระทรวงสาธารณสุขต่อไป คาดว่าจะเร่งรัดให้แล้วเสร็จก่อนเข้าเทศกาลสงกรานต์ หรือก่อนเดือนเมษายนนี้ และสอดคล้องกับนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ที่จะกระตุ้นดึงนักท่องเที่ยวโลกมาเที่ยวไทย