บัตรวีซ่า-มาสเตอร์การ์ดเลิกทำธุรกิจกับไบแนนซ์ ยักษ์เทรดเงินคริปโตใหญ่สุดของโลก

275
0
Share:
บัตรวีซ่า - มาสเตอร์การ์ด เลิกทำธุรกิจกับ ไบแนนซ์ ยักษ์เทรดเงินคริปโตใหญ่สุดของโลก

มาสเตอร์การ์ด (Mastercard) อินคอร์ปอเรชั่น ผู้ให้บริการบัตรเครดิต บัตรเดบิต และเครือข่ายการชำระเงินชื่อดังในแบรนด์มาสเตอร์การ์ดระดับโลก เปิดเผยว่า ประกาศยกเลิกการร่วมทำธุรกิจในฐานะพันธมิตรธุรกิจกับไบแนนซ์ (Binance) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกของมหาเศรษฐี นายจางเผิง จ้าว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ไบแนนซ์

สำหรับการยกเลิกการทำธุรกิจร่วมกันในครั้งนี้ จะเป็นการยกเลิกบริการที่ลูกค้าผู้ถือบัตรมาสเตอร์การ์ดซึ่งใช้เงินคริปโทในการซื้อสินค้าหรือบริการในทุกประเทศที่อยู่ในละตินอเมริกา หรืออเมริกาใต้ และตะวันออกกลางทั้งหมด เป็นที่ทราบกันดีว่า ตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีในทั้ง 2 ภูมิภาคดังกล่าว เป็นตลาดที่คึกคักในการยอมรับเงินคริปโทเคอร์เรนซีทั้งในการซื้อขายลงทุน และการชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ แทนเงินตราดั้งเดิม

ในขณะเดียวกัน วีซ่า (Visa) อินคอร์ปอเรชั่น ผู้ให้บริการบัตรเครดิต บัตรเดบิต และเครือข่ายการชำระเงินชื่อดังในแบรนด์วีซ่าระดับโลก ประกาศยกเลิกการร่วมทำธุรกิจในฐานะพันธมิตรธุรกิจกับไบแนนซ์ (Binance) ทั้งหมดในยุโรป

ไบแนนซ์ ต้องเผชิญกับมรสุมทางธุรกิจอย่างรุนแรง และแรงกดดันอย่างต่อเนื่องทั้งจากหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนดิจิตอลทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา และยุโรป และตลาดซื้อขายเงินคริปโทเคอเรนซีที่เข้าสู่ภาวะตกต่ำอย่างรุนแรงนับตั้งแต่ต่นปีนี้ เป็นต้นมา

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2023 ก.ล.ต.สหรัฐอเมริกา ได้ดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลรัฐบาลกลางแห่งกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. กับนายจ้าว ฉางเผิง ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอไบแนนซ์ (Binance) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายเงินดิจิตอลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยทำการฟ้องร้องถึง 13 คดีทั้งนายจ้าว ฉางเผิง ซีอีโอ และบริษัทไบแนนซ์ ในการกระทำผิดในลักษณะ “เครือข่ายแห่งการหลอกลวง ฉ้อโกง และฉ้อฉลอย่างมากมาย หรือ Web of Deception” การขัดแย้งแห่งประโยชน์แท้จริงทางธุรกิจ การละเลยในการเปิดเผยข้อมูล และการหลบเลี่ยงกฎระเบียบและกฎหมายกำกับดูแลตลาดสินทรัพย์ดิจิตอล

นายแกรี่ เกนสเลอร์ ประธานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ หรือ SEC สหรัฐอเมริกา กล่าวแถลงว่า สำหรับการฟ้องร้องดำเนินคดีดังกล่าวนั้น ก.ล.ต.สหรัฐอเมริกา พบข้อมูลแท้จริงเกี่ยวกับนายจ้าว ฉางเผิง และไบแนนซ์ทำการสร้างปริมาณธุรกรรมการซื้อขายมากเกินความเป็นจริงตามที่ก.ล.ต.ทำการสืบสวนและสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด นอกจากนี้ กระทำการผิดกฎหมายการลงทุนด้วยการโยกย้ายเงินทุนของลูกค้าผู้ใช้บริการ กระทำการล้มเหลวในการจำกัดลูกค้าที่ทำการซื้อขายจากในสหรัฐอเมริกาลนแพลตฟอร์มไบแนนซ์ และกระทำการหลอกลวง ชี้นำให้เกิดนักลงทุนเกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับระบบควบคุมและเฝ้าระวังตลาดการลงทุนสินทรัพย์ดิจิตอล เป็นต้น