บาทอ่อน ฟันด์โฟลว์ไหลออก! กดดันหุ้นไทยปิดตลาดปรับลง 5.14 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,633 จุด

ดัชนี SET Index ปิดตลาด อยู่ที่ระดับ 1,633.45 จุด ปรับลง -5.14 จุด หรือคิดเป็น -0.31% มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 70,141 ล้านบาท เคลื่อนไหวในกรอบ 1,633.41-1,642.82 จุด

โดย 3 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1. PTTEP : 4,604.28 ล้านบาท ราคา +5.00 บาท (+2.95%)
2. ADVANC : 3,253.90 ล้านบาท ราคา +2.50 บาท (+1.31%)
3. SCC : 3,033.44 ล้านบาท ราคา -9.00 บาท (-2.67%)

ด้านดัชนี SET50 ปรับลง -2.23 จุด คิดเป็น -0.23% อยู่ที่ 983.43 จุด โดยมูลค่าซื้อขายรวม อยู่ที่ 43,030 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 61.35% ของมูลค่าซื้อ-ขายในตลาด SET

ขณะที่ดัชนี mai ปรับลง -2.67 จุด หรือคิดเป็น -0.4% ในทิศทางเดียวกัน อยู่ที่ระดับ 666.62 จุด มูลค่าซื้อขาย 5462.35 ล้านบาท

ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยผันผวนในแดนบวกและลบ เนื่องจากนักลงทุนยังรอผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในวันที่ 22 ก.ย. นี้เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ทำให้เงินดอลล่าร์ยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง ส่วนค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่าแตะระดับ 37 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ ทำให้เงินลงทุนต่างชาติไหลออก กดดันให้ตลาดบ้านเราปิดลบ

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)ระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) รอบนี้คาดว่าอยู่ที่ 0.75% ซึ่งอาจทำให้ดัชนีหุ้นแกว่งตัวลงระยะสั้นในกรอบ 1,630 -1,660 จุด โดยที่หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะตอบรับข่าวปรับตัวลดลงก่อนจึงเป็นจังหวะเข้าซื้อ ส่วนหุ้นที่ได้รับผลกระทบคาดว่าเป็นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เพราะตลาดยังกังวลเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทำให้ความต้องการสินค้าราคาสูงชะลอตัวลง , กลุ่มเทคโนโลยีเนื่องจากเป็นหุ้นกลุ่มที่ยังเติบโต