บิทคอยน์ใส! เงินดิจิทัลบิทคอยน์ให้กำไรสูง 12% ในเดือนนี้ ท่ามกลางตลาดเทรดเงียบเหงา

ตลาดซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซี นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า เงินดิจิทัลสกุลบิทคอยน์ ซึ่งมีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดในเงินคริปโทฯ มีราคาพุ่งทะยานถึง 12% นับตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนถึงเมื่อวานนี้ โดยเมื่อวันพุธในสัปดาห์ผ่านไป บิทคอยน์มีราคาซื้อขายขึ้นเหนือระดับ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,050,000 บาทต่อบิทคอยน์ ทำสถิติค่าเงินบิทคอยน์สูงสุดในรอบ 2 เดือน 1 สัปดาห์ หรือนับตั้งแต่วันที่ 14 เมษายนเป็นต้นมา

สาเหตุจากแบล็คร็อค หนึ่งในแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชื่อดัง และเป็นบริษัทบริหารผลตอบแทนจากสินทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา ยื่นขออนุญาตเปิดบริการซื้อขายหลักทรัพย์ดิจิทัลประเภทกองทุนอีทีเอฟเงินบิทคอยน์ นอกจากนี้ ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนผ่านมา กระแสการลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา คึกคักอย่างต่อเนื่อง รับแนวโน้มธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาอาจชะลอถึงขั้นตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นในช่วงที่เหลือของครึ่งปีหลัง ทำให้นักลงทุนหวนกลับลงทุนในตลาดเงินคริปโทฯ

อย่างไรก็ตาม สภาพตลาดเงินคริปโทฯทั่วโลกกลับตกอยู่ในภาวะเงียบเหงาและมูลค่าซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบางมาก โดยเฉพาะภาวะตลาด Market Depth หรือสภาวะตลาดเงินคริปโทฯที่สามารถรองรับปริมาณธุรกรรมซื้อและขายขนาดใหญ่ เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดสภาวะ Market Dept ตกต่ำขึ้นมา และนักลงทุนขนาดใหญ่สั่งซื้อและขายเงินดิจิทัล ราคาเงินคริปโทฯ จะมีความผันผวนมากทั้งราคาพุ่งทะยาน หรือราคาดำดิ่งแรง ถึงแม้ว่ามูลค่าของคำสั่งซื้อขายนั้นจะไม่มีขนาดใหญ่ก็ตาม นอกจากนี้ สภาวะ Market Depth ยังสะท้อนถึงสภาพคล่องในตลาดได้อีกด้วย

ข้อมูลตลาดเงินคริปโทฯ พบว่า เงินบิทคอยน์มีสภาวะตลาด Market Dept หรือสภาพคล่องดำดิ่งถึง -20% นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงวันอาทิตย์ผ่านมา ท่ามกลางค่าเงินบิทคอยน์ที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐในรอบ 2 เดือนกว่า แต่นั่นหมายความว่า มีปริมาณคำสั่งซื้อขายมากก็จริง แต่ตลาดเงินบิทคอยน์กลับมีสภาพคล่องลดต่ำลงมาก ทำให้พบว่ามีแต่เพียงนักลงทุนประเภทสถาบันการเงินมากกว่านักลงทุนรายย่อย หรือทั่วไปที่ออกจากตลาดเงินคริปโทฯ โดยเฉพาะตลาดเงินบิทคอยน์ไปเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ สภาวะดังกล่าวเป็นผลให้ค่าเงินบิทคอยน์มีราคาเพิ่มขึ้นถึง 80% นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงวันอาทิตย์ผ่านไป แต่ท่ามกลางตลาดดังกล่าวเงียบเหงา

สภาวะตลาดเงินคริปโทฯ ที่มีราคาสูงแต่ปริมาณธุรกรรมในภาพรวมกลับตกต่ำ และกระจุกอยู่เฉพาะกลุ่มนักลงทุนในปัจจุบัน เป็นผลจากการใช้นโยบายกวาดล้างวงการเงินคริปโทฯ โดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ สหรัฐอเมริกา หรือ SEC ดำเนินการฟ้องร้องทั้งคดีอาญา และคดีแพ่งกับแพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโทฯ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา และใหญ่ที่สุดในโลก ได้แก่ ไบแนนซ์ และคอยน์เบส

คอยน์เก็กโค (CoinGecko) เปิดเผยว่า ปริมาณธุรกรรมซื้อขายรายวันของเงินคริปโทฯ ลดต่ำลงอย่างมากและต่อเนื่องมาเหลือเพียง 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 840,000 ล้านบาท ซึ่งตกต่ำลงมากเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงที่เงินบิทคอยน์มีราคาสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่เกือบ 69,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,415,000 บาท ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2021 ที่เคยมีปริมาณซื้อขายสุทธิรายวันมากถึง 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.5 ล้านล้านบาท หรือหานไปกว่า 316%

ทั้งนี้ นายคารอล อเล็กซานดร้า ศาสตราจารย์สอนด้านการเงิน มหาวิทยาลัยซัสเส็กซ์ กล่าวว่า คาดการณ์ว่าค่าเงินบิทคอยน์จะมีราคาระหว่าง 25,000-30,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือระหว่าง 875,000-1,050,000 บาทต่อบิทคอยน์ในช่วงฤดูร้อนนี้