บีวายดีทำยอดขายรถจี้ติดนิสสันทั่วโลกเหลือห่างแค่ 353 คัน คาดไตรมาส 4 เขี่ยนิสสันร่วง

208
0
Share:
บีวายดี ทำ ยอดขาย รถจี้ติดนิสสันทั่วโลกเหลือห่างแค่ 353 คัน คาดไตรมาส 4 เขี่ยนิสสันร่วง

บีวายดี (BYD) ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าชื่อดังระดับโลก และผลิตรถอีวีมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 3 ผ่านไป สามารถทำยอดขายในภาพรวมทั้งตลาดในจีนและต่างประเทศรวมกัน 824,001 คัน พุ่งสูงขึ้นถึง 53% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ส่งผลให้ยอดขายยานยนต์ของแบรนด์บีวายดีเข้ามาใกล้มากขึ้นกับค่ายรถยนต์นิสสันที่มีขนาดใหญ่อันดับ 3 ของญี่ปุ่น ซึ่งนิสสันทำยอดขายในภาพรวมทั้งในตลาดญี่ปุ่นและต่างประเทศรวม 824,354 คัน จะเห็นได้ว่ายอดขายของรถไฟฟ้าบีวายดีตามหลังยอดขายรถยนต์นิสสันเพียง 353 คันเท่านั้น

สำหรับนิสสัน มอเตอร์ มียอดขายในไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้นเพียง 4% นั้น ไม่นับรวมยอดขายรถยนต์ที่ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจกับ 2 ค่ายรถยนต์ ได้แก่ เรโนลต์ และมิตซูบิชิ มอเตอร์ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายคนในวงการยานยนต์ต่างประเทศมีมมุมองที่สอดคล้องกันว่า สถานการณ์การแข่งขันยอดขายยานยนต์ในไตรมาสที่ 4 มีความเป็นไปได้สูงที่รถอีวีแบรนด์บีวายดีสัญชาติจีนแผ่นดินใหญ่จะคว่ำยอดขายของนิสสัน ในขณะเดียวกัน จะมียอดขายแซงหน้านิสสัน สร้างประวัติศาสตร์ครั้งแรกของวงการตลาดยานยนต์โลก โดยเฉพาะในจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ค่ายรถไฟฟ้าจีนสามารถมียอดขายมากกว่านิสสัน มอเตอร์ ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่อันดับ 3 ของญี่ปุ่น

มาร์คไลน์ส เปิดเผยว่า ค่ายรถไฟฟ้าบีวายดีที่ได้รับการสนับสนุนจากมาตรการของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ สามารถทำยอดขายยานยนต์ทั้งรถไฟฟ้า 100% หรือบีอีวี รถประเภทพลักอิน-ไฮบริด และรถประเภทฟิวส์เซลล์ รวมกันทั้งหมดมีจำนวน 36.5% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ภายในประเทศจีนเมื่อเดือนกันยายนผ่านไป เมื่อเปรียบเทียบกับสัดส่วนยอดขายที่น้อยกว่า 4% ในประเทศญี่ปุ่น สำหรับยอดขายรถไฟฟ้าของบีวายดีในตลาดต่างประเทศทั่วโลกในเดือนเดียวกันอยู่ที่ 287,000 คัน ซึ่งเกือบจะเท่ากับยอดขายทั้งหมดในไตรมาสที่ 1 ของปี 2022

สาเหตุที่แบรนด์รถไฟฟ้าบีวายดีมียอดขายในภาพรวมเพิ่มขึ้นอย่างมาก เป็นผลจากความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนการผลิต ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญอย่างมากของบีวายดี ไม่ว่าจะเป็นทั้งแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากภายในบริษัท ทำให้ลดต้นทุนได้ต่ำลง และเร่งความเร็วในการออกแบบ ผลิต และเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ภายในเวลาอันสั้น

ผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่อันดับ 3 ของญี่ปุ่นอย่างนิสสัน มอเตอร์ พบว่า ต้องเผชิญอุปสรรคมากมายในการปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตลาดรถยนต์ในจีน โดยนิสสันทำยอดขายรถยนต์ 32% ของยอดขายในแง่ปริมาณหรือจำนวนรถที่ขายได้สิ้นสุดในปีงบประมาณเมื่อเดือนมีนาคมผ่านไป ถึงแม้ว่า นิสสัน มอเตอร์ จะใช้ความพยายามในการนำรถพลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวี เช่น รุ่นอาริยา(Ariya) รุ่นซิลฟี่(Sylphy) เข้าไปขายในตลาดก็ตาม ยอดขายรถอีวีของนิสสันกลับน้อยกว่าจากการแข่งขันในตลาดที่เต็มไปด้วยรถอีวีที่ผลิตมาจากธุรกิจสตาร์ทอัพ ที่สำคัญ ยอดขายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปต้องสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์ตลาดยานยนต์ในต่างประเทศ มองว่าบีวายดีซึ่งเป็นค่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสัญชาติจีนแผ่นดินใหญ่ อาจมียอดขายถึง 3 ล้านคันเมื่อถึงสิ้นปีนี้ นั่นหมายความว่าในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บีวายดีจะต้องทำยอดขายถึง 800,000 คัน