ปธน.ทรัมป์ประกาศเก็บภาษี 15% กับเกาหลีใต้ ภาษีสินค้าสหรัฐเป็น 0% เปิดตลาดรถยนต์ รถบรรทุก เกษตรให้สหรัฐ เกาหลีใต้ลงทุนในสหรัฐกว่า 11 ล้านล้านบาท ซื้อพลังงานกว่า 3.3 ล้านล้านบาท มีผล 1 ส.ค.

ปธน.ทรัมป์ประกาศเก็บภาษี 15% กับเกาหลีใต้ ภาษีสินค้าสหรัฐเป็น 0% เปิดตลาดรถยนต์ รถบรรทุก เกษตรให้สหรัฐ เกาหลีใต้ลงทุนในสหรัฐกว่า 11 ล้านล้านบาท ซื้อพลังงานกว่า 3.3 ล้านล้านบาท มีผล 1 ส.ค.

วันที่ 30 กรกฎาคม 2025 เมื่อเวลา 19.00 น. ตามเวลาในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. หรือตรงกับ 6.00 น. เวลาไทย นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาโพสต์ข้อความบนสื่อโซเชียลเกี่ยวกับข้อตกลงภาษีการค้ากับเกาหลีใต้ มีดังนี้

ผมยินดีที่จะประกาศว่าสหรัฐอเมริกาได้ตกลงทําข้อตกลงการค้าเต็มรูปแบบ และสมบูรณ์แบบกับสาธารณรัฐเกาหลี ข้อตกลง คือเกาหลีใต้จะลงทุน 350,000 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐอเมริกา สําหรับการลงทุนนี้จะควบคุมโดยสหรัฐอเมริกา และเลือกประเภทการลงทุนโดยผมเองซึ่งอยู่ในฐานะประธานาธิบดี

นอกจากนี้ เกาหลีใต้จะซื้อก๊าซธรรมชาติ LNG หรือผลิตภัณฑ์พลังงานอื่นๆ มูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เกาหลีใต้ตกลงที่จะลงทุนเงินจํานวนมากเพื่อวัตถุประสงค์ในการลงทุน ผลรวมทั้งหมดนี้จะประกาศภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้าเมื่อประธานาธิบดีอี แจ-มยอง ของเกาหลีใต้มายังทำเนียบขาวเพื่อประชุมทวิภาคี

ผมอยากจะแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีคนใหม่สําหรับความสําเร็จในการเลือกตั้งของเขาด้วย นอกจากนี้ ยังตกลงว่าเกาหลีใต้จะเปิดการค้ากับสหรัฐอเมริกาอย่างสมบูรณ์ และจะยอมรับผลิตภัณฑ์ของอเมริการวมถึงรถยนต์ รถบรรทุก การเกษตร อื่นๆ สหรัฐตกลงอัตราภาษีสําหรับเกาหลีใต้ที่ 15% สินค้าอเมริกาจะไม่ถูกเรียกเก็บภาษี ผมอยากจะขอบคุณตัวแทนการค้าที่มาในวันนี้ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบทีมนี้ และพูดคุยเกี่ยวกับความสําเร็จที่ยิ่งใหญ่ของประเทศเกาหลีใต้

หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกานายโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความตกลงข้อเจรจาภาษีการค้าดังกล่าวกับเกาหลีใต้ มีรายงานว่าประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวว่าดีลตกลงดังกล่าว ทำให้ประเทศเกาหลีใต้ มีจุดแข่งขันที่เท่าเทียม หรืออาจจะดีกว่ากับประเทศคู่แข่งอื่นๆ อย่างไรก็ตามรายงานดังกล่าวยังไม่สามารถยืนยันได้อย่างเป็นทางการ

สำหรับเงินลงทุนของเกาหลีใต้ที่ระบุไว้ 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 11.38 ล้านล้านบาท เพื่อลงทุนในสหรัฐอเมริกาตามที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์นั้น ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า จะมีส่วนหนึ่งราว 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 4.88 ล้านล้านบาท จะเป็นพันธมิตรลงทุนในอุตสาหกรรมการต่อเรือ

ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ข้อตกลงภาษีและการค้าของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่มีต่อเกาหลีใต้ในครั้งนี้จะทำให้สินค้ารถยนต์ ที่ผลิตในเกาหลีใต้ได้รับการปรับลดอัตราภาษีนำเข้าจากเดิม 25% เหลือ 15% นอกจากนี้ ไมโครชิพ คอมพิวเตอร์ เวชภัณฑ์หรือยา ของเกาหลีใต้จะได้รับการเก็บภาษีในอัตราที่ไม่เลวร้ายไปกว่าประเทศอื่นๆ ที่สำคัญเกาหลีใต้ตกลงไม่เปิดตลาดข้าว และเนื้อวัวกับสหรัฐอเมริกา

ขณะที่ ก่อนที่จะมีการประกาศข้อตกลงภาษีการค้าโดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในคืนที่ผ่านมานั้น เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกของเกาหลีใต้ได้ประกาศว่า ค่ายรถอีวีแบรนด์เทสลาของประเทศสหรัฐอเมริกา ตกลงซื้อไมโครชิพมูลค่า 16,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 536,000 ล้านบาทจากโรงงานซัมซุงในรัฐเท็กซัส นอกจากนี้ แอลจี เอนเนอยี่ โซลูชั่น ซึ่งเป็นบริษัทด้านพลังงานชื่อดังที่อยู่ในเครือแอลจีของเกาหลีใต้ ได้ประกาศการลงทุนมูลค่า 4,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 15,000 ล้านบาท ด้วยการผลิตแบตเตอรี่เก็บพลังงานไฟฟ้าให้กับเทสลา

สำหรับการประกาศข้อตกลงภาษีและการค้ากับประเทศเกาหลีใต้ในครั้งนี้นับเป็นรายที่ 2 ต่อจากการประกาศข้อตกลงภาษีและการค้ากับประเทศอินเดียซึ่งเกิดขึ้นภายในคืนเดียวกันที่ผ่านมา เมื่อเวลา 8.30 น. ตามเวลาในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. หรือตรงกับ 19.30 น. เวลาไทย นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาโพสต์ข้อความเก็บภาษีสินค้าอินเดียที่ 25% (ลดลง 1% จากเมื่อวันที่ 2 เมษายน) มีผล 1 สิงหาคมนี้ และส่งสัญญานชัดเจนว่า อินเดียจะได้รับมาตรการอื่นๆ ของรัฐบาลสหรัฐ เนื่องจากซื้อสินค้าพลังงาน และอาวุธจากประเทศรัสเซีย

การเจรจาข้อตกลงภาษีและการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับเกาหลีใต้ในครั้งนี้ ส่งผลให้เป็นดีล หรือข้อตกลงรายที่ 9 ของสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วย สหราชอาณาจักร จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น กลุ่มอียู อินเดีย และเกาหลีใต้ ในขณะเดียวกัน เฉพาะในเอเชีย สหรัฐอเมริกาปิดดีลได้ 7 ประเทศ ได้แก่ จีนที่ 30% เวียดนามที่ 20% อินโดนีเซียที่ 19% ฟิลิปปินส์ที่ 19% ญี่ปุ่นที่ 15% อินเดียที่ 25% และเกาหลีใต้ที่ 15% สำหรับในอาเซียนนั้น ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาปิดข้อตกลงภาษีการค้ารวม 3 ประเทศ ได้แก่ เวียดนามที่ 20% อินโดนีเซียที่ 19% และฟิลิปปินส์ที่ 19%

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles