นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความในสื่อโซเชียล มีดังนี้ ผมรู้สึกพอใจอย่างมากๆ กับการตั้งอัตราจัดเก็บภาษี 50% กับสหภาพยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกลุ่มอียูต้วมเตี้ยม หรือเดินอย่างช้าๆ (นี่เป็นการใช้คำพูดที่รักษาน้ำใจกัน) กับการเจรจาของสหรัฐกับอียู อย่าลืมว่า ผมมีอํานาจเต็มรูปแบบที่จะกำหนดข้อตกลงสําหรับการค้ากับสหรัฐอเมริกา หากเราไม่สามารถทําข้อตกลง หรือได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมต่อสหรัฐ ผมเพิ่งได้รับแจ้งว่ากลุ่มอียูโทรติดต่อมาเพื่อกําหนดวันประชุมเจรจาอย่างรวดเร็ว นี่เป็นเหตุการณ์ด้านบวก และผมหวังว่าในที่สุดกลุ่มอียูจะเปิดประเทศในยุโรปเพื่อการค้ากับสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับความต้องการเดียวกันของผมที่มีต่อจีน ทั้งคู่จะมีความสุขมาก และประสบความสำเร็จ หากทั้งคู่ลงมือทํา!!!
ย้อนไปเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความในสื่อโซเชียล มีดังนี้ ผมได้รับโทรศัพท์จากประธานคณะกรรมาธิการกลุ่มสหภาพยุโรป นางเออร์ซุลา วอน เดอ ลียอง ร้องขอให้เลื่อนเวลาวันที่ 1 มิถุนายนที่จะเก็บภาษี 50% กับสินค้าจากยุโรป ด้วยการค้า และกลุ่มสหภาพยุโรป ผมตกลงเลื่อนวันเส้นตายไปเป็นวันที่ 9 กรกฎาคม นั่นเป็นสิทธิพิเศษที่ผมมีให้กับกลุ่มสหภาพยุโรป ประธานคณะกรรมาธิการกลุ่มสหภาพยุโรป กล่าวว่าการเจรจาภาษีจะเริ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขอบคุณสำหรับการใส่ใจในเรื่องนี้
การโพสต์ขอความของนายโดนัลด์ ทรัมป์ มีขึ้นหลังจากเพียงไม่นานนักที่ประธานคณะกรรมาธิการกลุ่มสหภาพยุโรป โพสต์ข้อความบนสื่อออนไลน์เอ็กซ์ ว่า โทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีสหรัฐด้วยผลที่ดี กลุ่มสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกามีความสัมพันธ์ร่วมกันด้านการค้าอย่างใกล้ชิด ยุโรปพร้อมที่จะเจรจาให้มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและเด็ดขาดขึ้น เพื่อที่จะบรรลุข้อตกลงภาษีและการค้าที่ดี กลุ่มสหภาพยุโรปต้องขอเวลาไปถึงวันที่ 9 กรกฎาคม
เมื่อวันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความในสื่อโซเชียล มีดังนี้ กลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป ซึ่งก่อตั้งขึ้นมา เพื่อเป้าหมายสำคัญที่สุดในการเอารัดเอาเปรียบประเทศสหรัฐอเมริกาในด้านการค้า ได้พิสูจน์ได้เห็นแล้วในช่วงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาว่ามีความยากลำบากในการเจรจาด้วย
ข้อจำกัด หรือการกีดกันการค้าของกลุ่มอียูที่มีพลังมากมาย ภาษีมูลค่าเพิ่ม บทลงโทษเกี่ยวกับค่าปรับภาคธุรกิจที่ดูไม่เข้าท่า ข้อจำกัดหรือการกีดกันทางการค้าที่ไม่อยู่ในรูปแบบภาษี นโยบายครอบงำภาคการเงินและอัตราแลกเปลี่ยน การดำเนินคดีความกฎหมายที่ไม่ยุติธรรมและไม่เป็นธรรม กับบริษัทสัญชาติอเมริกันจำนวนมาก และอีกหลายสิ่งหลายอย่าง ทั้งหมดทำให้สหรัฐอเมริกานำไปสู่ภาวะการค้าขาดดุล มีมูลค่าสูงกว่า 250,000,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี นับเป็นตัวเลขที่ไม่สามารถยอมรับได้อย่างสิ้นเชิง
การพูดคุยเจรจากับกลุ่มสหภาพยุโรป ไม่สามารถจะไปไหนได้เลย ดังนั้น ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาจึงแนะ เก็บภาษีสูงขึ้นตรงไปตรงมา 50% กับกลุ่มสหภาพยุโรปให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2025 เป็นต้นไป จะไม่มีภาษีใดๆ เกิดขึ้นเลย ถ้าสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ได้รับการผลิต หรือได้รับการตั้งโรงงานผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา ขอบคุณสำหรับการใส่ใจในเรื่องนี้