ประชาธิปัตย์เสนอปิดประเทศ – ลดดอกเบี้ย – ลดภาษี กู้วิกฤติโควิด 19

นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย แถลงข้อเสนอมาตรการระยะสั้น เพื่อกู้เศรษฐกิจไทยรอดพ้นจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ว่าวิกฤตในครั้งนี้เป็นวิกฤตด้านสาธารณสุข ไม่ใช่วิกฤตด้านการเงิน หรือเศรษฐกิจ แต่หากไม่ใช้ยาแรงก็อาจเป็นวิกฤตทางด้านเศรษฐกิจได้ในอนาคต
.
ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่ต้องมากังวลด้านการเติบโต หรือหดตัวของ GDP ของประเทศ แต่เป็นเวลาที่รัฐบาลต้องใช้อาวุธที่มีศักยภาพ และทรัพยากรที่มีอย่างเต็มกำลังความสามารถ โฟกัสให้ถูกจุด เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับประเทศไทยที่จะเข้าสู่สถานการณ์การระบาดในระดับ 3
.
โดยมาตรการด้านสาธารณสุข ควรจำกัดการเดินทางเข้า-ออกระหว่างประเทศ หรือการปิดประเทศ เช่นเดียวกับหลายๆ ประเทศที่มีนโยบายปิดประเทศ เพื่อระงับยับยั้งการระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างมีระบบ อาจสร้างความสูญเสียระยะสั้น แต่ถือว่าเจ็บแต่จบ และสามารถก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ได้อย่างดีที่สุด และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือคนไทยต้องได้รับตรวจไวรัสโควิด-19 ฟรีทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น หมอ พยาบาล หรือบุคลากรด้านสาธารณสุข ควรมีประกันสุขภาพ ซึ่งงบกลางกว่า 7 หมื่นล้านบาทของไทยมีเพียงพอ
.
มาตรการด้านเศรษฐกิจและการเงิน เพื่อให้ไม่เกิดการสะดุดหรือหยุดชะงักไปมากกว่านี้ ซึ่งเจ็บและจบ แบงก์ชาติได้มีการลดดอกเบี้ยให้อยู่ระดับต่ำสุดที่ประเทศไทยเคยทำคือ 1% และยังสามารถลดได้อีก 0.5 % และอยากเสนอให้แบงค์ชาติเจรจากับขอความร่วมมือกับแบงค์พาณิชย์ให้ลดดอกเบี้ย หรือพักชำระหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้เชิงรุกให้กับ SMEs ต่าง ๆ อย่างน้อย 3 เดือนเป็นอย่างต่ำ เพื่อสร้างสภาพคล่องด้านการเงิน ให้ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้
.
มาตรการด้านค่าครองชีพ กระทรวงการคลังต้องฉีดวัคซีนแรง โดยการลดภาษีให้นิติบุคคลลงอีก 5-10% ซึ่งเป็นการลดเพียงเฉพาะปีนี้เท่านั้น ทางด้านพลังงานเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ภาคประชาชน รัฐต้องลดหรือยกเว้นการนำเงินเข้ากองทุนน้ำมันชั่วคราว เพื่อช่วยลดภาษีและราคาน้ำมัน เพราะถึงแม้ราคาเนื้อน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลง แต่ภาษีน้ำมันยังมีอัตราเท่าเดิม ทำให้ราคาน้ำมันขายปลีกไม่ได้ลดตามลงไปด้วยตามสัดส่วน และสำคัญอยากให้ลด ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ลดลงอีก 1% เพราะประชาชนกำลังมีภาระด้านการจ้างงาน รวมถึงการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ผ่านออนไลน์ เพื่อเตรียมความพร้อมสร้างแรงงานคุณภาพให้มีมีทักษะต่าง ๆ เพิ่มขึ้นเพื่อลุยสร้างเศรษฐกิจให้เจริญเติบโตได้อย่างดีและมั่นคง
.
โดยมาตรการแบบเจ็บแต่จบครั้งนี้ อาจใช้เวลา 3-5 สัปดาห์ แต่ทุกอย่างก็น่าจะผ่านไปได้แน่นอน