ประธานธนาคารกลางสหรัฐย้ำแนวโน้มลดดอกเบี้ย ดันทองคำโลกปิดทะลุ 2,315 ดอลลาร์

120
0
Share:
ประธานธนาคารกลางสหรัฐย้ำแนวโน้มลดดอกเบี้ย ดัน ทองคำโลก ปิดทะลุ 2,315 ดอลลาร์

ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2024 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,292.31 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +15.52 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.5% ทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ ขณะที่ราคาสูงสุดระหว่างวันพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,294.99 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ ที่สำคัญ ส่งผลราคาปิดขึ้น 7 วันติดกันรวม +142.57 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +3.22%

ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,315 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +22.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.5% ส่งผลทำสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ ที่สำคัญ ส่งผลราคาปิดขึ้น 7 วันติดกันรวม +155.80 พี่ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +5.54% ตั้งแต่ต้นปีนี้ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งขึ้นกว่า 11%

ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำปิดเพิ่มขึ้น +2.7% เดือนมีนาคมนี้ ทองคำตลาดโลกพุ่งทะยาน 9% ทำสถิติทองคำรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบ 3 ปี 8 เดือน หรือตั้งแต่กรกฎาคม 2020 นอกจากนี้ ราคาทองคำปิดขึ้น +8% ในไตรมาสที่ 2 ส่งผลเป็นราคาทองคำที่ปิดบวกติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 อีกด้วย

สาเหตุจากนักลงทุนมั่นใจไปต่อกับการเข้าซื้อทองคำหลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐกล่าวในคืนผ่านมาว่า ตัวเลขเงินเฟ้อและการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นเกินคาดหมายเมื่อเร็วๆนี้ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมุมมองในภาพรวมของนโยบายการเงินในปีนี้ ความรุนแรงและตึงเครียดในสถานการณ์ตะวันออกกลางหลังจากอิสราเอลโจมตีด้วยตีขีปนาวุธเข้าไปในประเทศซีเรีย แต่สร้างความเสียหายอย่างมากให้กับสถานทูตอิหร่านในประเทศซีเรีย ส่งผลให้รัฐบาลอิหร่านประกาศตอบโต้ล้างแค้นอิสราเอลอย่างแน่นอน

สภาทองคำโลก หรือ WGC เปิดเผยว่าธนาคารกลางหลายแห่งโดยเฉพาะธนาคารกลางจีนเพิ่มการซื้อทองคำเข้าสะสมในทุนสำรองระหว่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งในเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ และความเสี่ยงเงินดอลลาร์สหรัฐ

ด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกอ่อนค่าลงหลังจากประธานเฟดไม่เปลี่ยนมุมมองแนวโน้มการลดดอกเบี้ยสหรัฐ ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงในเดือนมิถุนายนนี้อยู่ที่ 58% จากเดิมที่ 61%