ประธานแบงก์ชาติสหรัฐฟันธงดอกเบี้ยยังไม่สูงเกินไป เศรษฐกิจสหรัฐต้องชะลอ ช่วยลดเงินเฟ้อ

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด กล่าวปาฐกถาเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นและเงินเฟ้อสหรัฐอเมริกาที่สมาคมเศรษฐกิจ หรือ Economic Club ในคืนผ่านมาว่าโดยส่วนตัวมองว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดในปัจจุบันที่ 5.25-5.50% ไม่ได้สูงเกินไป ข้อมูลหรือหลักฐานเพิ่มเติมของการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐที่อยู่สูงกว่าแนวโน้มการคาดการณ์นั้นยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง หรือภาวะการจ้างงานที่ตึงตัวไม่มีการผ่อนคลายลงแต่อย่างใด ทั้งหมดอาจกดดันให้ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น และอาจจะเป็นการรับประกันได้ในนโยบายการเงิน หรือดอกเบี้ยระยะสั้นตึงตัวขึ้น

ภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกายังคงอยู่ในระดับสูงเกินไป ในขณะที่ข้อมูลในด้านบวกที่มีอีก 2-3 เดือนข้างหน้าเป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่จะสร้างความมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะมีทิศทางที่กำลังลดลงไปสู่เป้าหมายของเฟดที่กำหนดไว้ ตัวเลขเงินเฟ้อที่เฟดใช้เป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจทิศทางดอกเบี้ยระยะสั้นนั้น ยังคงอยู่ที่ระดับ 3.7% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายมาก เฟดยังไม่สามารถรู้ได้ว่าถึงที่ไหน หรือเมื่อไหร่ ที่อัตราเงินเฟ้อสำคัญจะลดลงในระดับที่เหมาะสมในอีกหลายไตรมาสข้างหน้า

ดังนั้น ข้อมูลสถิติต่างๆล้วนให้สัญญาณว่าการลดอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องให้กลับเข้าเป้าหมายที่ระดับ 2% อาจจำเป็นจะต้องทำให้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาขยายตัวลดต่ำกว่าแนวโน้มการคาดการณ์ไว้ และจะต้องกระทบต่อภาวะการจ้างงานที่ตึงตัวให้ผ่อนคลายลงจากปัจจุบัน

ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด กล่าวต่อไปว่า สถานการณ์การสู้รับของอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสติดอาวุธในขณะนี้เป็นความน่ากลัวอย่างสยดสยอง และขอเตือนว่าผลลัพธ์ที่มีความไม่แน่นอนสูงของปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคจะมีผลต่อเศรษฐกิจโลก สงครามรุนแรงในเหตุการณ์ปัจจุบันอาจเขย่าตลาดพลังงานโลกถ้าความขัดแย้งทำให้เกิดความไม่มีเสถียรภาพในตะวันออกกลางโดยเฉพาะหลายประเทศเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก

ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นต่อเนื่องถึง 11 ครั้งนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2022 จนกระทั่งการประชุมของเฟดเมื่อวันที่ 20 -21 กันยายนผ่านมา เป็นครั้งแรกที่เฟดตรึงอัคราดอกเบี้ยดังกล่าวซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 22 ปีผ่านมา