ปลัดกระทรวงพลังงาน เตรียมอุ้มราคาดีเซล 32 บาท อีก 4 เดือน หากกระทรวงการคลังไม่ต่ออายุ

259
0
Share:
ปลัด กระทรวงพลังงาน เตรียมอุ้มราคา ดีเซล 32 บาท อีก 4 เดือน หากกระทรวงการคลังไม่ต่ออายุ

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีกระทรวงการคลังไม่ต่อมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นเป็น 37 บาทต่อลิตร จาก 32 บาทต่อลิตรตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2566 ว่า ที่จริงสถานการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นมาตลอด คือ ประกาศของกฎกระทรวงการคลังที่ลงในราชกิจานุเบกษา ซึ่งในการเตรียมการของคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ต้องดูว่าสถานการณ์ในภาพรวม

ปัจจุบันน้ำมันดีเซลถูกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันอยู่ที่ลิตรละ 5.43 บาท หากไม่มีการต่ออายุมาตรการจะทำให้ราคาน้ำมันปรับขึ้นทันที ในขณะที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวซึ่งจะส่งผลกระทบถึงค่าครองชีพ รวมถึงกำลังจะมีคือการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ทำให้เกิดช่วงสุญญากาศ ทั้งนี้จึงเตรียมการว่ากองทุนน้ำมันสามารถเข้าไปช่วยดูแลช่วยพยุงราคาน้ำมันให้อยู่ที่ 31.94 บาทได้หรือไม่ เบื้องต้นพบว่าสามารถทำได้เป็นเวลาอีกประมาณ 3-4 เดือน ตั้งแต่สิงหาคม-พฤศจิกายน 2566 จากสถานะกองทุนน้ำมันขณะนี้ติดลบเหลือ 6.9 หมื่นล้านบาท จากเคยติดลบสูงถึง 1.2 แสนล้านบาท เวลานี้มีการกู้เงินเพื่อชำระหนี้ผู้ค้ามาตรา 7 ราว 50,000 ล้านบาท และเตรียมการอีก 20,000 บาท และไม่มีการกู้ต่อ โดยกองทุนสามารถบริหารได้ ทั้งคืนผู้ค้า จ่ายคืนดอกเบี้ยเจ้าหนี้

โดยหากมีการปรับขึ้น 5 บาท ด้วย 43 สตางค์ที่เหลือ บวกด้วยการเก็บจากเบนซินด้วยอีก 2 บาทกว่า ยืนยันว่าสามารถบริหารจัดการสภาพคล่องกองทุนน้ำมันให้ช่วยเหลือประชาชนได้ โดยใช้ราคาน้ำมันดีเซลในราคา 31.94 บาทต่อลิตร เพื่อพยุงเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวประมาณ 4 เดือน หลังจากสิ้นสุดมาตรการกรณีที่ราคาน้ำมันโลกไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม หากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ต้องมานั่งทบทวนสถานการณ์ใหม่ รวมถึงหากยังไม่มีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามา และยังคงเป็นรัฐบาลรักษาการ ต้องนำเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณา ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินและได้ผลกระทบอย่างรุนแรง