ปลัดเกษตรฯ เผยสิ้นเดือนมี.ค.นี้ ชัดเจนแก้ปัญหาปุ๋ยแพง แง้มนำเข้าแม่ปุ๋ยจากตปท.

400
0
Share:

นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า หน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ เข้าร่วมให้ข้อมูลในคณะทำงานพิจารณาแก้ปัญหาปุ๋ยและวัตถุดิบอาหารสัตว์ของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ หลังจากปลัดกระทรวงเกษตรฯ ประชุมร่วมกับปลัดกระทรวงพาณิชย์เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา โดยกระทรวงพาณิชย์จะปรับเพดานราคาจำหน่ายปุ๋ยเคมีซึ่งเป็นสินค้าควบคุมให้สอดคล้องกับต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นเพื่อให้ภาคเอกชนนำเข้าแม่ปุ๋ยมาจำหน่ายในฤดูกาลผลิตนี้และป้องกันปัญหาปุ๋ยเคมีขาดตลาดซึ่งคาดว่า จะกำหนดเพดานราคาใหม่ได้ภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้

ส่วนที่มีความกังวลว่า การนำเข้าแม่ปุ๋ยจะไม่ทันต้นฤดูกาลทำนาปีซึ่งจะเริ่มในเดือนพฤษภาคมนั้น กระทรวงพาณิชย์ได้สำรวจสต๊อกปุ๋ยแล้วพบว่า ยังมีพอใช้ โดยเฉพาะยูเรียซึ่งชาวนาจะใช้เร่งการเติบโตของต้นข้าวหลังหว่าน ส่วนปุ๋ยสูตรอื่นๆ คาดว่า จะทยอยนำเข้ามาตรงกับความต้องการใช้แต่ะละช่วงเวลาเนื่องจากพืชแต่ละชนิดมีความต้องการปุ๋ยแตกต่างกันตามระยะการเติบโต สำหรับกระทรวงเกษตรฯ เร่งผลิตปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพให้ได้ 5 ล้านตันเพื่อทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี โดยจะมี 2 แนวทาง คือ

1. ใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพทดแทนปุ๋ยเคมีทั้งหมด

2. ใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพผสมผสานกับปุ๋ยเคมี

นายทองเปลวย้ำว่า เกษตรกรไม่ต้องกังวล หากราคาปุ๋ยเคมีจะปรับสูงขึ้นเนื่องจากกระทรวงเกษตรฯ จะดำเนินโครงการ “อุดหนุนปุ๋ย” ด้วยการให้เข้าถึงปุ๋ยในราคาถูกเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในด้านต้นทุนการผลิต ทั้งหมดเป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ห้ามไม่ให้เกิดปัญหาปุ๋ยขาดแคลนเด็ดขาด

สำหรับการป้องกันและแก้ไขปัญหาอาหารสัตว์แพงและขาดแคลน จากการประชุมร่วมของกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์เห็นร่วมกันว่า ให้ชะลอการใช้ “มาตรการ 3:1” คือ การกำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วนต่อการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ 3 ส่วนของกระทรวงพาณิชย์ไว้ชั่วคราวจนถึง 31 กรกฎาคม 2565 ดังนั้นคาดว่า คณะทำงานที่กรมการค้าภายในจัดตั้งขึ้น โดยมีผู้แทนจากสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ เกษตรกรผู้ปลูกพืชอาหารสัตว์ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กรมปศุสัตว์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือ จะสามารถกำหนดช่วงเวลาและปริมาณการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์จากต่างประเทศได้ภายในสิ้นเดือนมีนาคมเช่นเดียวกัน