ปลูกบ้านเซ็ง! คนไทยไม่มีอารมณ์ปลูกบ้าน ฉุดยอดสร้างบ้านดิ่งหลังฟื้นตัวไม่ถึงปี

นายโอฬาร จันทร์ภู่ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์ตลาดรับสร้างบ้านในครึ่งปีแรกของปี 2566 เผชิญกับปัจจัยหลายด้าน ที่เห็นได้ชัด คือ ส่งผลให้ยอดสั่งสร้างบ้านไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมือง และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้า หากมีการออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองบนถนน จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคและเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ต้นทุนค่าแรงและค่าวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคที่ต้องการสั่งสร้างบ้านบนที่ดินของตัวเองชะลอการตัดสินใจออกไปอย่างไม่มีกำหนด อาจทำให้เศรษฐกิจของประเทศอาจต้องชะลอตัวอีกครั้ง หลังจากที่ทยอยฟื้นตัวบ้างแล้วจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด–19

สำหรับปัจจัยต้นทุนค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งมาจากนโยบายการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมือง ที่แม้ว่าจะยังไม่ได้เริ่มจัดตั้งรัฐบาล แต่ก็พบว่าค่าแรงได้มีการขยับไปก่อนหน้านี้แล้ว รวมไปถึงต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ปรับราคาไปแล้วเช่นกัน ซึ่งทั้งสองส่วนนี้นับเป็นต้นทุนที่สำคัญและมีผลต่อราคาบ้านที่เพิ่มขึ้น

นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวต่อไปว่า เตรียมผลักดันมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อและฟื้นความเชื่อมั่นผู้บริโภคไว้ใน 2 เรื่องหลัก คือ การเสนอให้มีการอนุมัติมาตรการทางภาษีให้ผู้บริโภคที่ปลูกสร้างบ้านบนที่ดินตัวเองสามารถนำมูลค่าสร้างบ้านที่ระบุไว้ในสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง ตามเอกสารอากรแสตมป์ (อ.ส.4) นำไปลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาในรอบภาษีปีถัดไปได้ในอัตราลดหย่อนล้านละ 10,000 บาท แต่สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท

ข้อเสนอดังกล่าวที่ให้นำค่าสร้างบ้านมาลดหย่อนภาษีได้จะช่วยเร่งการตัดสินใจของผู้บริโภคและกระตุ้นตลาดที่เห็นผลเร็วที่สุด นอกจากนี้ จะร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ให้พิจารณาปล่อยสินเชื่อสร้างบ้าน ซึ่งปัจจุบันมีหลายแห่งที่พร้อมจะปล่อยกู้ด้วยยอดสินเชื่อที่สูงและดอกเบี้ยต่ำ โดยเฉพาะในกลุ่มบ้านหลังละ 1–3 ล้านบาท