ปั้มพีทีทีเผยค่าการตลาดได้เพียงลิตรละ บาท ไม่ได้สูงถึง 3 บาทตามข้อมูลของสนพ.

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ กล่าวยืนยันว่า โออาร์ในฐานะเจ้าของแบรนด์ปั้มพีทีทีสเตชั่นไม่เอาเปรียบประชาชน ไม่คดโกง การปรับราคาขี้นลงได้หารือกับกรมธุรกิจพลังงานทุกครั้ง อย่างข้อมูลสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือสนพ.ที่แจ้งโครงสร้างราคาน้ำมันรายวัน น้ำมันเบนซินค่าการตลาด 3.20-3.30 บาทต่ลิตร แต่โออาร์ได้จริง 1.90-2.00 บาทต่อลิตร ส่วนต่าง 1.20-1.30 บาทต่อลิตร และเคยสูงสุดถึง 1.60 บาทต่อลิตร ขณะที่ดีเซลค่าการตลาดโออาร์และ สนพ.ใกล้เคียงกันอยู่ระดับ 1.50 บาทต่อลิตร เพราะมีกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและภาษีกำกับใกล้ชิด

นายดิษทัตกล่าวว่า ส่วนสาเหตุที่ค่าการตลาดที่โออาร์ได้รับและ สนพ.กำหนดต่างกันมาจากสูตรราคาที่ต่างกัน โดยโออาร์มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากสูตรที่ สนพ.กำหนด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปัญหาเหล่านี้จะหมดไปตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ค่าการตลาดจะกลับมาเท่ากัน เพราะประเทศไทยจะบังคับใช้น้ำมันมาตรฐานยูโร 5 ที่คุณภาพน้ำมันจะดีขึ้นเพราะเหลือระดับ 10 พีพีเอ็ม จากปัจจุบันระดับ 50 พีพีเอ็ม นอกจากนี้ สนพ.อยู่ระหว่างให้ที่ปรึกษาเข้าพิจารณาต้นทุนค่าการตลาดใหม่คาดจะชัดเจนเดือนพฤศจิกายนนี้

ซีอีโอโออาร์ กล่าวเกี่ยวกับนโยบายเสรีนำเข้าน้ำมันของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ถือเป็นเรื่องที่ดี ปัจจุบันการนำเข้าเสรีอยู่แล้ว แต่ต้นทุนนำเข้านั้นกลับแพงกว่าราคาในประเทศ ประมาณ 1 บาทต่อลิตร ตัวอย่างเชลล์มีโรงกลั่นในประเทศสิงคโปร์แต่เลือกซื้อน้ำมันจากโรงกลั่นไทย นั่นแสดงว่าราคาไทยถูกกว่าหรือไม่

ทั้งนึ้ หากแพงกว่าเชลล์คงเลือกนำเข้าแล้วเพราะใช้เวลาเพียง 2 วัน อย่างไรก็ตาม โออาร์นำเข้าน้ำมันเบนซิน หรือแก๊สโซลีนอยู่บ้าง เพราะผลิตไม่เพียงพอในประเทศ ปีนี้นำเข้าแล้ว 4 ลำเรือ ลำละ 50 ล้านลิตร คาดว่าปลายปีจะนำเข้าอีก 1 ลำเพื่อรองรับการเดินทางท่องเที่ยวที่จะเติบโตตามฤดูกาล