ปิดบวกได้! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดขึ้นกว่า 60 จุด น้ำมันดิบโลกปิดขึ้นเหนือ 82 ดอลลาร์

166
0
Share:
ปิดบวกได้! ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดขึ้นกว่า 60 จุด น้ำมันดิบโลกปิดขึ้นเหนือ 82 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,875 จุด +66 จุด หรือ +0.20% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,137 จุด +3 จุด หรือ +0.09% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 12,037 จุด -35 จุด หรือ -0.29% ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดลดลง -0.23%, -0.1% และ -0.42% ตามลำดับ

สาเหตุจากนักลงทุนประเมินแนวโน้มผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ของบริษัทชั้นนำในสัปดาห์ใหม่ หลังจากในสัปดาห์ผ่านไป ตัวเลขดังกล่าวสร้างความผิดหวังต่อนักลงทุน รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะมีการประชุมดอกเบี้ยระยะสั้นอีกภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า คือวันที่ 2-3 พฤษภาคมนี้

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 78.76 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.89 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.1% ส่งผลราคาน้ำมันดิบปิดเพิ่มขึ้น 2 วันทำการติดกันรวม 1.39 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 82.73 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.07 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.3% ส่งผลราคาน้ำมันดิบปิดเพิ่มขึ้น 2 วันทำการติดกันรวม 1.63 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ปิดร่วงลง -5.6% และ -5.4% ตามลำดับ

สาเหตุจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่จะขยายตัวเพิ่มจากการท่องเที่ยวในประเทศ โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ทอง หรือ Golden Week ที่จะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันแรงงาน 1 พฤษภาคมเป็นต้นไป ส่งผลความต้องการใช้น้ำมันดิบ และน้ำมันเครื่องบินเพิ่มขึ้น

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจกลุ่มยูโร และสหราชอาณาจักรออกมาดีขึ้น ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยชัดเจน หลังจากตัวเลขแรงงานอเมริกันขอใช้สิทธิสวัสดิการช่วงว่างงานรายสัปดาห์กลับมาเพิ่มขึ้นเกินความคาดหมายมาเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐถูกเทขายทำกำไร ทำให้ร่วงอ่อนค่าลงทั้งๆที่มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเดือนพฤษภาคมนี้

ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 1,988.69 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +12.42 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.3% ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,999.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ 12.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ +0.4% ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำตลาดโลกปิดลดลง -1.2%

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา สาขาดัลลัส กล่าวว่าภาคการผลิตในสหรัฐอเมริกาชะลอตัวลง ส่งต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงอ่อนค่าถึง 0.5% สอดคล้องกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาปรับอ่อนค่าลง

ทั้งนี้ โอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ CME Watch ที่ระดับ 0.25% พบว่ามีโอกาสถึง 89% ในการประชุมวันที่ 2-3 พฤษภาคมนี้