ปิดประเทศ! โควิด-19 ติดพุ่งไม่หยุดในบังคลาเทศ เป็นชาติแรกในเอเชียที่ประกาศปิดล็อกประเทศในปีนี้
รัฐบาลประเทศบังคลาเทศ ประกาศใช้มาตรการปิดล็อกประเทศเป็นเวลานาน 7 วันติดต่อกัน เริ่มมีผลตั้งแต่วันจันทร์ที่ 5 เมษายนนี้เป็นต้นไป สาเหตุจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 รอบที่ 2 แพร่กระจายอย่างรุนแรง และต่อเนื่อง ผลจากการประกาศใช้มาตรการดังกล่าว ทำให้บังคลาเทศกลายเป็นประเทศแรกในเอเชียใต้ และเอเชีย ที่ปิดล็อกระดับประเทศในปีนี้
.
กระทรวงสาธารณสุข บังคลาเทศ เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมาถึงวันนี้ 3 เมษายน 2564 พบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันทะยานขึ้น 6,830 ราย ส่งผลตัวเลขสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 624,594 ราย เป็นอันดับที่ 33 ของโลก และเป็นอันดับที่ 9 ในเอเชีย ทำให้อัตราการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พุ่งสูงถึง 23.28% ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันมีจำนวน 50 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมรวมเป็น 9,155 ราย
.
เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา รัฐบาลประกาศมาตรการรักษาระยะห่าง และจำกัดการให้บริการของภาคเอกชน ประกอบด้วย การให้บริการระบบขนส่งมวลชนให้ลดลงเหลือเพียง 50% จากการบริการปกติ ประกาศยกเลิกบริการรถร่วมเดินทางสาธารณะจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ รัฐบาลบังคลาเทศ ประกาศห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าบังคลาเทศ ได้แก่ 27 ประเทศสมาชิกกลุ่มสหภาพยุโรป หรือกลุ่มอียู บาห์เรน บราซิล จอร์แดน คูเวต เลบานอน กาตาร์ แอฟริกาใต้ และตุรกี มาตรการดังกล่าวนี้มีระยะเวลานาน 2 สัปดาห์
.
สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่น่ากังวลมากขึ้นในประเทศบังคลาเทศ ทำให้รัฐบาลสหราชอาณาจักร ประกาศให้บังคลาเทศเป็น 1 ใน 4 ประเทศที่ขึ้นในบัญชีรายชื่อประเทศสีแดง ร่วมกับปากีสถาน เคนยา และฟิลิปปินส์ ส่งผลให้ห้ามนักเดินทาง และประชาชนชาวบังคลาเทศเดินทางเข้าสหราชอาณาจักร โดยจะมีผลในวันศุกร์ที่ 9 เมษายนเป็นต้นไป
.
ด้านการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ในประเทศบังคลาเทศ ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา โดยฉีดวัคซีนผลิตโดยแอสตราเซเนกาไปแล้วรวมทั้งสิ้น 5.5 ล้านโดส หรือราว 2,750,000 คน คิดเป็น 1.1% จากประชากรทั้งประเทศที่ 160 ล้านคน
ทั้งนี้ ประเทศบังคลาเทศเริ่มกลับมาเผชิญกับภาวะการระบาดของโรคโควิด-19 หรือการระบาดรอบที่ 2 นับตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมในปีนี้ โดยก่อนหน้านี้ จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ลดต่ำลงในเหลือเพียง 305 รายเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ในปีนี้
