ปิดสวนทาง! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดลงกว่า 40 จุด หยุดปิดบวก 4 วันติดกัน ขายทำกำไรช่วงสั้น

ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,945 จุด -45 จุด หรือ -0.13% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,508 จุด +5 จุด หรือ +0.12% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 14,119 จุด +9 จุด หรือ +0.07% ส่งผลให้ในเดือนพฤศจิกายน ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง เพิ่มสูงขึ้น +5.74%, +7.48% และ +9.84% ตามลำดับ

สาเหตุจากนักลงทุนทำกำไรช่วงสั้นในหุ้นกลุ่มบลูชิปที่มีราคาพุ่งสูงติดต่อกันใน 4 วันต่อเนื่องผ่านมา หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อผู้ผลิตเดือนตุลาคมในสหรัฐอเมริกาลดลง 0.5% ทำสถิติเงินเฟ้อดังกล่าวรายเดือนต่ำสุดในรอบ 3 ปี 6 เดือนครึ่ง หรือนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2020 เป็นต้นมา ขณะที่เมื่อวันอังคารผ่านมา ตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคเดือนตุลาคมในสหรัฐอเมริกา ปรากฏว่าเงินเฟ้อทั่วไปมีอัตราไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงที่ระดับ 0.4% เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี 3 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2022 ขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา พบว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้น 3.2% ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อดังกล่าวลดลงจากเดือนกันยายนที่เคยอยู่สูงถึง 3.7%

สอดรับกับอัตราเงินเฟ้อขั้นพื้นฐานในเดือนตุลาคม ซึ่งไม่รับรวมราคาอาหารและราคาพลังงาน พบว่า เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน และเพิ่มขึ้นเป็น 4.0% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ส่งผลทำสถิติเงินเฟ้อขั้นพื้นฐานเพิ่มขึ้นน้อยสุดในรอบ 2 ปี 1 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่กันยายนปี 2021

ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นในช่วงแคบๆมาอยู่เหนือกว่า 4.5% สอดรับกับดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกกลับเพิ่มขึ้น สะท้อนถึงแรงกดดันต่ออัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะมีการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ในวันที่ 12-13 เดือนธันวาคม ทำให้หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีถูกเทขายนำตลาดทั้งคืนผ่านมา

ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเดือนธันวาคมอยู่ที่ 91% จากเดิมที่โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ 95%