ปิดเขียวคึกคัก! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดกระฉูดกว่า 330 จุด น้ำมันดิบโลกปิดหลุด 96 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,160 จุด +333 จุด หรือ +1.02% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,828 จุด +21 จุด หรือ +0.56% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 10,616 จุด +51 จุด หรือ +0.49%

สาเหตุจากนักลงทุนยังคงมั่นใจในผลประกอบการของบริษัทที่ทยอยประกาศออกมาโดยส่วนใหญ่เป็นไปตามคาดหมาย นอกจากนี้ นักลงทุนรอประเมินผลการเลือกตั้งกลางเทอมในสหรัฐอเมริกาที่เริ่มต้นขึ้นแล้ว ซึ่งต้องการเห็นพรรครีพลับลิกันกลับมาครองเสียงข้างมากทั้งในสภาสูงและสภาล่าง เพื่อคานอำนาจบริหารของพรรคเดโมแครตโดยเฉพาะการจำกัดและควบคุมการใช้จ่ายของรัฐบาลชุดปัจจุบัน และแนวโน้มการออกกฎหมายภาษีใหม่ในอนาคต

ถึงแม้ว่าอัตราว่างงานในเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้นเป็น 3.7% ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 3.5% แต่กลับเป็นเหตุผลที่นักลงทุนประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในอัตราที่ไม่สูงเหมือน 4 ครั้งๆละ 0.75% ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังคงคาดหวังกับผลประกอบการของบริษัทที่ยังคงทยอยประกาศออกมาอย่างต่อเนื่อง

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 88.91 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.88 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.14% ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 95.36 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.6% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในจีนแผ่นดินใหญ่ทวีความรุนแรงสูงขึ้น ทำสถิติติดเชื้อรายใหม่สูงสุดในรอบกว่า 6 เดือน นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการสาธารณสุขจีนแผ่นดินใหญ่ยืนยันจีนยึดมั่นนโยบายไม่อยู่ร่วมโรคระบาดโควิด-19 อย่างเหนียวแน่น ซึ่งทำให้นักลงทุนผิดหวังต่อกระแสข่าวผ่อนคลายมาตรการดังกล่าว ในขณะที่นักลงทุนรอประเมินผลการเลือกตั้งกลางเทอมในสหรัฐอเมริกาที่เริ่มต้นขึ้นแล้ว

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,715.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +37.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +2.08% ก่อนหน้านี้ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงอ่อนค่าอย่างหนาตา รวมถึงดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐลดลงอย่างรวดเร็วในระดับต่ำเกือบ 2 สัปดาห์ ตามด้วยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี ปรับลดลงต่อเนื่องจากระดับสูงสุดในรอบกว่า 14 ปี หรือตั้งแต่กรกฎาคม 2008 หลังจากอัตราการว่างงานเดือนตุลาคมในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นเกินคาดหมายมาแตะระดับ 3.7% ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาอาจชะลอขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น