ปีชงหุ้นไทย! ถล่มทึ้งหุ้นบริษัทสตาร์คในตลาดหุ้นไทย ราคาปิดดิ่งนรก -92% ในวันเดียว

295
0
Share:
ปีชงหุ้นไทย! ถล่มทึ้ง หุ้น บริษัท สตาร์ค ในตลาดหุ้นไทย ราคาปิดดิ่งนรก -92% ในวันเดียว

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2566 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อปิดการซื้อขายในวันนี้ 1 มิถุนายน 2566 เมื่อเวลา 16.30 น. ราคาหุ้นของบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือตัวย่อ STARK ปิดวันนี้ที่ราคาหุ้นละ 18 สตางค์ ดำดิ่งมากถึง -2.20 บาทต่อหุ้น หรือทรุดหนักระนาวถึง -92.44% มีมูลค่าซื้อขายสุทธิ 1,110,563 บาท ในขณะที่ราคาต่ำสุดระหว่างวันมีราคาดำดิ่งเหลือหุ้นละ 13 สตางค์

นักลงทุนที่ถือหุ้นบริษัทสตาร์คเปิดฉากเทขายหุ้นดังกล่าวตั้งแต่เปิดตลาดจนถึงปิดตลาดในวันนี้ สาเหตุจากวิกฤตสภาพคล่องของบริษัทดังกล่าวที่ส่งผลถึงความไม่สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้ของบริษัทที่ถึงกำหนดเวลาได้

บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เกี่ยวกับมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ของ บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น ครั้งที่ 1/2564 ชุดที่ 1 ที่ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2566 (STARK239A) และหุ้นกู้ บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น ครั้งที่ 1/2564 ชุดที่ 2 ที่ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2567 (STARK249A) ซึ่งมูลค่าหุ้นกู้รวมทั้งสิ้น 2,241 ล้านบาท

ระบุว่า ในการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ STASK ชุด STARK239A และชุด STARK249A เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2566 ซึ่งมีผู้ถือหุ้นกู้เข้าประชุม 208 ราย รวมเป็นจำนวนหุ้นกู้ทั้งสิ้น 749,600 หน่วย หรือคิดเป็น 33.4494% ของจำนวนหุ้นกู้ทั้งหมดนั้น ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้เสียงข้างมาก หรือคิดเป็นสัดส่วน 63% ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นกู้ที่เข้ามาประชุมและออกเสียงลงคะแนน ลงมติไม่ยกเว้นเหตุผิดนัด อันเกิดจากการที่ผู้ออกหุ้นกู้ส่งแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี 2565 ล่าช้ากว่าที่กฎหมายและข้อกำหนดสิทธิกำหนด

พร้อมกันนั้น ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้เสียงข้างมาก หรือคิดเป็นสัดส่วน 71.18% ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นกู้ที่เข้ามาประชุมและออกเสียงลงคะแนน มีมติเรียกให้หนี้เงินต้นและดอกเบี้ยภายใต้หุ้นกู้ทั้งหมดถึงกำหนดชำระโดยพลัน

ข้อมูลสารสนเทศของ STARK ที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุด้วยว่า เมื่อผู้ถือหุ้นกู้มีมติไม่ยกเว้นเหตุผิดนัดและใช้สิทธิเรียกให้หนี้เงินต้นและดอกเบี้ยภายใต้หุ้นกู้ทั้งหมดถึงกำหนดชำระโดยพลัน ย่อมเป็นเหตุให้บริษัทมีภาระหนี้ทางการเงินที่ต้องชำระอย่างเร่งด่วน ขณะที่การใช้สิทธิดังกล่าวยังก่อให้เกิดเหตุผิดนัดไขว้ (cross default) ภายใต้สัญญาทางการเงินอื่นๆ ทั้งหลาย และทำให้เจ้าหนี้ทางการเงินอื่นๆ ของบริษัทสามารถใช้สิทธิเรียกร้องให้หนี้ทางการเงินเหล่านั้นถึงกำหนดชำระทันที โดยในเบื้องต้น บริษัทประเมินว่าจะมีหนี้ที่เกิดการผิดนัดทั้งสิ้น ดังต่อไปนี้

(ก) หนี้หุ้นกู้หมายเลข STARK239A และ STARK249A ซึ่งมีเงินต้นค้างชำระรวมจำนวนทั้งสิ้น 2,241,000,000 บาท ตามที่ได้มีมติอนุมัติเรียกให้หนี้เงินต้นและดอกเบี้ยภายใต้หุ้นกู้ทั้งหมดถึงกำหนดชำระโดยพลัน โดยในกรณีนี้ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้จะต้องส่งหนังสือแจ้งมายังบริษัท (ในฐานะผู้ออกหุ้นกู้) (“หนังสือเรียกให้ชำระหนี้ โดยพลัน”) ให้ชำระหนี้เงินตามหุ้นกู้ทั้งหมดซึ่งยังไม่ถึงกำหนดชำระภายใน 5 วันทำการนับแต่วันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้มีมติดังกล่าว โดยจะกำหนดให้บริษัทชำระหนี้เงินต้นคงค้างทั้งหมดภายใต้หุ้นกู้พร้อมดอกเบี้ยภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ทำหนังสือเรียกให้ชำระหนี้โดยพลันถึงบริษัท

(ข) การผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ในข้อ (ก) จะส่งผลให้หุ้นกู้อีก 3 ชุด ได้แก่ หุ้นกู้หมายเลข STARK245A STARK255A และ STARK242A ซึ่งมีเงินต้นค้างชำระรวมจำนวน 6,957,400,000 บาท เกิดการผิดนัดไปด้วย

(ค) ในส่วนของเจ้าหนี้ทางการเงินอื่นๆ ที่อาจใช้สิทธิเรียกร้องให้ชำระหนี้ทั้งหมดในลักษณะเดียวกัน บริษัท มิได้นิ่งนอนใจ และกำลังพิจารณาทำการสื่อสาร เจรจา หาทางออกร่วมกับเจ้าหนี้ดังกล่าวอยู่เพื่อให้เจ้าหนี้ระงับซึ่งการใช้สิทธิดังกล่าว จึงยังไม่สามารถสรุปยอดหนี้ที่อาจมีการใช้สิทธิในแบบเดียวกันได้เนื่องจากเหตุแห่งการเรียกชำระหนี้ โดยพลันของหุ้นกู้เพิ่งจะเกิดขึ้น

อย่างไรก็ดี เนื่องจากบริษัทอยู่ในระหว่างการเตรียมแผนธุรกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ตลอดจนแผนธุรกิจ สำรองเพื่อรองรับผลประกอบการตามงบการเงินประจำปี 2565 ที่จะเปิดเผยภายในวันที่ 16 มิ.ย.2566 บริษัทจะรวมการดำเนินการใดๆ ในส่วนของหุ้นกู้ในแผนธุรกิจและแผนสำรองดังกล่าวและเปิดเผยแนวทางในการดำเนินการของบริษัท เพิ่มเติมในภายหลัง

อนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างกลุ่มเจ้าหนี้ทางการเงิน และเจ้าหนี้ต่างๆ ของบริษัท บริษัทกำลังขอเจรจากับเจ้าหนี้ทางการเงินที่สำคัญทั้งหมด เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัท เพื่อมิให้ เจ้าหนี้อื่นๆ ใช้สิทธิแบบเดียวกัน

ขณะเดียวกัน บริษัทก็พิจารณาถึงความเสี่ยงอันเกิดจากการกระทำใดๆ ที่อาจถือเป็นการเลือกปฏิบัติและให้เปรียบเจ้าหนี้กลุ่มใดๆ เหนือเจ้าหนี้รายอื่น บริษัทจึงเห็นว่าต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการชำระหนี้ให้แก่ เจ้าหนี้กลุ่มใดๆเป็นการเฉพาะ เพราะอาจถูกเจ้าหนี้กลุ่มอื่นเพิกถอนหรือส่งกระทบในทางลบต่อการเจรจากับเจ้าหนี้ กลุ่มอื่น ดังนี้ จึงควรรอให้ผลของการเจรจาสิ้นสุดลงว่าจะบริหารการชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้หุ้นกู้และกลุ่มอื่นๆ อย่างไร โดยเท่าเทียมกัน ก่อนดำเนินการชำระหนี้ใดๆ

นอกจากนี้ STARK แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯด้วยว่า ในวันที่ 31 พ.ค.2566 ยังมีการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น ครั้งที่ 1/2565 ชุดที่ 2 ที่ครบกำหนดไถ่ถอน ปี พ.ศ. 2567 (STARK245A) และหุ้นกู้ บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น ครั้งที่ 1/2565 ชุดที่ 3 ที่ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2568 (STARK255A) โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นเสียงข้างมาก หรือคิดเป็น 63.49% ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นกู้ที่เข้ามาประชุมและออกเสียงลงคะแนน มีมติยกเว้นเหตุผิดนัดอันเกิดจากการที่ผู้ออกหุ้นกู้ส่งแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี พ.ศ. 2565 ล่าช้ากว่าที่กฎหมายและข้อกำหนดสิทธิกำหนด

ขณะเดียวกัน ในการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น ครั้งที่ 2/2565 ที่ครบกำหนดไถ่ถอนปีพ.ศ. 2567 (STARK242A) ซึ่งมีการจัดประชุมในวันที่ 31 พ.ค.2566 เช่นกันนั้น ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้เสียงข้างมาก หรือคิดเป็น 76.75% ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นกู้ที่เข้ามาประชุมและออกเสียงลงคะแนน มีมติยกเว้นเหตุผิดนัดอันเกิดจากการที่ผู้ออกหุ้นกู้ส่งแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี พ.ศ.2565 ล่าช้ากว่าที่กฎหมายและข้อกำหนดสิทธิกำหนด

ในเช้าวันนี้ 1 มิ.ย. 2566 ตลาดหลักทรัพย์ฯ แจ้งให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลผลการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ของ STARK ตามที่ STARK แจ้งข่าวเกี่ยวกับผลการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในวันที่ 31 พ.ค.2566 โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ หมายเลข STARK239A และ STARK249A เงินต้นค้างชำระรวม 2,241 ล้านบาท มีมติไม่ยกเว้นเหตุผิดนัด และใช้สิทธิเรียกให้ชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยภายใต้หุ้นกู้โดยพลัน และก่อให้เกิดเหตุผิดนัดไขว้ (cross default) ภายใต้สัญญาทางการเงินอื่นๆ (รายละเอียดปรากฏตามข่าว STARK วันที่ 1 มิ.ย.2566)

ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ผู้ลงทุนติดตามและศึกษาข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา ตัดสินใจลงทุน และขอให้ใช้ความระมัดระวังในการซื้อขายหลักทรัพย์