ปีนี้โรงงานสิ่งทอจะปิดตัวกว่า 100 แห่ง

1679
0
Share:

นายชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้โรงงานทางด้านสิ่งทอในประเทศจะต้องปิดกิจการประมาณ 10% ภายในปีนี้ หรือประมาณ 100 โรงงานจากทั้งหมด 4,000 โรงงาน
.
โดยสัญญาณดังกล่าวเริ่มต้นมาตั้งแต่เดือนมกราคม ซึ่งยังไม่มีการแพร่ระบาดของไวรัส โดยการส่งออกสิ่งทอของไทยในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคมยังทรงตัว แต่เดือนเมษายนติดลบไปมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
.
ทำให้ขณะนี้มีหลายโรงงานที่จะต้องปิดกิจการอย่างแน่นอน เพราะทำผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน หรือมีเป้าหมายเป็นจำนวนมากแบบไม่เฉพาะเจาะจง รวมถึงไม่มีการนำนวัตกรรมมาปรับใช้เพื่อเพิ่มมูลค่า และยังเน้นการแข่งขันทางด้านราคา
.
โดยผู้ประกอบการสามารถฝ่าวิกฤติไปได้ จะต้องปรับตัวเข้าสู่วิถีใหม่ของการทำธุรกิจ โดยตลาดสิ่งทอทางการแพทย์จะเป็นตลาดน่าสนใจ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขอนามัย และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการปกป้องตนเอง เพราะผู้บริโภคมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น
.
นอกจากนี้ จะต้องมุ่งเน้นการทำตลาดในประเทศเป็นหลัก โดยประเทศไทยมีโอกาสที่จะเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ ซึ่งอุตสาหกรรมสิ่งทอก็จะเป็นส่วนหนึ่งของมิติดังกล่าว ซึ่งไทยมีความโชคดีที่มีอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ แต่สิ่งที่ยังขาดคือเรื่องขององค์ความรู้ทางด้านมาตรฐาน ยังไม่ค่อยรู้เรื่องการทดสอบเพื่อให้ได้มาตรฐานสากล และไม่ค่อยรู้จากการวิจัยและพัฒนามากนัก โดยโรงงานขนาดใหญ่จะได้เปรียบเพราะมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ส่วนโรงงานขนาดเล็กจะต้องเชื่อมโยงกับดรงงานขนาดใหญ่ในการทำธุรกิจไปด้วยกัน
.
โดยปัจจุบันหลายโรงงานหันมาทำ หน้ากากผ้า ที่ได้มาตรฐาน ผลิต ชุด PPE ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของตลาดเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ โดยต้องเรียนว่าชุด PEE ไม่ได้ใช้เฉพาะทางการแพทย์เท่านั้น แต่ยังสามารถขยายตลาดไปสู่อุตสาหกรรมสปา คนเก็บขยะ และแอร์โฮสเตส ได้ด้วย
.
แต่ภาครัฐจะต้องเป็นผู้นำทางให้กับผู้ประกอบการ โดยการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้มองเห็นตลาด และนำไปสู่การผลิต ซึ่งสถาบันฯก็จะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงในการให้ความรู้ทางด้านการทอสอบให้ได้มาตรฐานสากล