ผลิตภัณฑ์นมไทยตีตลาดส่งออกตลาดเอฟทีเอ 94% ครองแชมป์ในอาเซียน และอันดับ 7 ของโลก

411
0
Share:
ผลิตภัณฑ์นม ไทยตีตลาด ส่งออก ตลาดเอฟทีเอ 94% ครองแชมป์ในอาเซียน และอันดับ 7 ของโลก

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้ติดตามสถานการณ์การส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมของไทย พบว่า การส่งออกขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันไทยเป็นผู้ส่งออกเบอร์ 1 ในอาเซียน และเป็นอันดับ 7 ของโลก

โดยในช่วง 7 เดือน 2566 ไทยส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นมไปตลาดโลก มูลค่า 380 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 8.2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็นการส่งออกไปตลาดคู่ FTA มูลค่า 357 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 8.3% คิดเป็นสัดส่วน 94.1% ของการส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นมทั้งหมด ตลาดคู่ FTA ที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ อาเซียน ขยายตัว 6.9% จีน ขยายตัว 41.4% ฮ่องกง ขยายตัว 18.6% ออสเตรเลีย ขยายตัว 21.8% และอินเดีย ขยายตัว 137.6% สินค้าส่งออกที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น อาทิ นมพร้อมดื่มยูเอชที นมเปรี้ยวและโยเกิร์ต นมถั่วเหลืองที่มีนมผสม เครื่องดื่มอื่นๆ ที่มีนมผสม และหางนม (เวย์)

ทั้งนี้ จากสถิติ พบว่า สินค้านมและผลิตภัณฑ์มีการขอใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA ในการส่งออกสูง โดยเฉพาะตลาดอาเซียน เนื่องจากไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมจากไทยทุกรายการแล้ว ในช่วง 7 เดือน ไทยส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นมไปอาเซียน มูลค่า 308.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 6.9% คิดเป็นสัดส่วน 81% ของการส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นมทั้งหมด ตลาดที่ขยายตัวได้ดี อาทิ สปป.ลาว ขยายตัว 14.2% โดยสินค้าที่ได้รับความนิยม อาทิ นม UHT มูลค่า 86.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 16.7% นมเปรี้ยวและโยเกิร์ต มูลค่า 78.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 14.4%

ทั้งนี้ ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ของไทยกับคู่ค้า 18 ประเทศ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้การส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมของไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันคู่ค้า FTA 14 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี และฮ่องกง ได้ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้ากับสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมจากไทยทุกรายการแล้ว เหลือเพียง 4 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย และเปรู ที่ลดภาษีนำเข้าสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมบางส่วนให้ไทย

นอกจากนี้ ความตกลงความ RCEP ญี่ปุ่น ตกลงจะทยอยลดภาษีนำเข้าเครื่องดื่มนมที่มีนมผสมลงจนเหลือ 0 ในปี 2580