ผู้นำเวิลด์แบงก์เตือน “โลกจะเผชิญวิกฤตอาหาร” ลากยาวถึงปี 2566 จากพิษสงคราม

496
0
Share:
สงคราม

นายเดวิด มัลพาส ประธาน ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ได้กล่าวระหว่างการประชุมของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก ว่าสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลทำให้ ราคาอาหาร ปรับตัวสูงขึ้น และกระทบกลุ่มคนยากไร้มากที่สุด วิกฤตการณ์ความไม่มั่นคงทางอาหารครั้งนี้จะครอบคลุมระยะเวลาหลายเดือนและอาจจะยืดเยื้อไปจนถึงปี 2566

โดยส่วนใหญ่แล้วผลลัพธ์จากสงครามครั้งนี้กำลังสร้างแรงกดดันต่อกลุ่มคนยากจนทั่วโลก เนื่องจากราคาอาหารปรับตัวขึ้นแล้ว 37% เมื่อเทียบรายปี และปรับตัวขึ้นมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งมีนัยสำคัญ เนื่องจากเป็นมาตรวัดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อกลุ่มคนยากไร้เพียงใด โดยพวกเขาต้องใช้จ่ายเงินซื้ออาหารมากกว่าภายในงบประมาณใช้จ่ายรายวันของพวกเขา

ทั้งนี้ภาวะขาดแคลนอาหาร พลังงาน และปุ๋ย ซึ่งสำคัญสำหรับวัฏจักรการเพาะปลูก กำลังสร้างวิกฤตการณ์ความไม่มั่นคงทางอาหาร ซึ่งจะกินเวลานานอย่างน้อยหลายเดือนและอาจจะยืดเยื้อไปจนถึงปีหน้า “ปัญหาเรื่องอาหารมีความรุนแรง…ราคาที่แพงขึ้นส่งผลกระทบต่อกลุ่มคนที่มีฐานะยากไร้ที่สุด ดังนั้น ปัญหาดังกล่าวจึงส่งผลกระทบต่อประชาชนในประเทศยากจน และโดยเฉพาะกลุ่มคนที่อยู่ในพื้นที่ชนบทรุนแรงที่สุด นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มว่าประชาชนจะหันไปหาอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการต่ำลง หากไม่มีทางเลือกอื่น”

เพื่อช่วยคลี่คลายวิกฤตการณ์นี้ธนาคารโลกจะจัดสรรงบประมาณอุดหนุนวงเงิน 1.7 แสนล้านดอลลาร์ตลอดช่วง 15 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะเป็นการจัดสรรเงินช่วยเหลือก้อนใหญ่ที่สุดของธนาคารโลก สำหรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ธนาคารโลกจะจัดสรรงบประมาณ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับโครงการวัคซีนใน 81 ประเทศ ภายในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้