ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเตือนมาตรการผ่อนคลายไม่ใช่ให้การ์ดตก

584
0
Share:

พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง แถลงถึงสถานการณ์ภายหลังจากที่รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการเพื่อให้กิจการบางประเภทที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชนสามารถเปิดบริการได้ว่า
.
ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา พบ การเดินทางของประชาชนเป็นจำนวนมาก อาจเกิดจากความคลาดเคลื่อนในการสื่อความหมายของการผ่อนคลาย ยืนยันว่า รัฐบาลไม่เคยแนะนำให้ การ์ดตก และ เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่เข้าใจ แต่อาจมีบางคนที่เข้าใจว่า อาจการ์ดตกได้บ้าง ดังนั้นต้องเข้าใจใหม่ว่าการ์ดตกไม่ได้ ปัจจุบันรัฐบาลยังคงให้ประชาชน งดหรือลดการเดินทางข้ามเขตจังหวัด เว้นแต่มีเหตุจำเป็นและต้องแสดงหลักฐาน ดังนั้นหากประชาชนต้องการจะเดินทางก็ต้องยอมรับว่า จะเจอกับจุดตรวจที่เข้มข้นและพบกับความไม่สะดวก
.
ส่วนผู้ประกอบการที่กลับมาเปิดให้บริการ ก็จะถูกตรวจสอบวิธีปฏิบัติจากฝ่ายความมั่นคง ว่าได้มาตรฐานสาธารณสุขหรือไม่ หากตรวจแล้วพบว่า สถานประกอบการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดหลัก เบื้องต้นก็ต้องตักเตือน ถ้าไม่ปรับปรุงก็ต้องปิด เพราะเป็นความรับผิดชอบต่อประชาชนในภาพรวม เพื่อให้ทุกคนที่ไปใช้บริการเกิดความมั่นใจว่าสถานที่ที่เข้าไปนั้นปลอดภัย
.
ด้านการตั้งจุดตรวจ ซึ่งเป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง โดยจุดตรวจคัดกรองโควิด-19 ลดลงเหลือ 312 จุด และจุดตรวจเคอร์ฟิว เหลือ 690 จุด หลังจากนี้จะไปเพิ่มการออกสุ่มตรวจความพร้อมของสถานประกอบการ ที่จะดำเนินการจริงจังเข้มข้นตลอดเดือนพ.ค.นี้
.
ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สำหรับการเดินทางข้ามเขตจังหวัด มีข้อกำหนดระบุไว้ โดยยังให้งดหรือชะลอ เว้นแต่มีความจำเป็น โดยจะมีเจ้าหน้าที่ควบคุม ส่วนคำถามที่ว่าต้องถูกกักตัว 14 วันนั้น เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ไม่ใช่เรื่องจริง แต่ก็ขึ้นอยู้กับความเข้มงวดของจังหวัดปลายทางด้วย
.
ยกตัวอย่างว่าหากจะเดินทางจากกทม.ไปยังจ.สุรินทร์ เมื่อผ่านจ.นครราชสีมา จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองตั้งด่านตรวจ แต่จะไม่ถูกกักตัวที่จ.นครราชสีมา โดยจะมีขั้นตอนและตรวจวัดไข้ แต่เมื่อถึงปลายทางจะมีการคัดกรองโรคตามมาตรการที่กำหนดไว้ ส่วนความหนักเบาขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ ขณะที่ผู้เดินทางไปเพียง 3-4 วันนั้น เจ้าหน้าที่จะมีการบันทึกข้อมูลและเฝ้าระวังตามขั้นตอน
.
ส่วนคำถามที่ว่าทำไมถึงปล่อยให้คนที่อยู่ในจ.ภูเก็ต กลับไปมากนั้น เจ้าหน้าที่ยืนยันว่ามีคนไทย ซึ่งไม่มีภูมิลำเนาในจ.ภูเก็ต อยู่ประมาณ 1 แสนคน เมื่อโควิดระบาดและมีคำสั่งห้ามเข้าออกจ.ภูเก็ต พบว่าในจำนวนนี้มี 5 หมื่นคนไม่มีงานทำ แต่ช่วงนั้นจังหวัดยังไม่ให้ออกจากพื้นที่ คนกลุ่มนี้จึงได้มาลงชื่อกับเจ้าหน้าที่ไว้ เพื่อตรวจสอบและรับรองในกระบวนการคัดกรอง ตอนนี้มีผู้เดินทางออกแล้ว 3,600 คน โดยกระจายไป 56 จังหวัด เมื่อถึงปลายทางจะมีเจ้าหน้าที่ดำเนินการ