ผู้ว่ากทม.ยันบีทีเอสจำเป็นต้องเก็บค่าโดยสารสูงสุดที่ 158 บาท

641
0
Share:

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือ กทม. เปิดเผยว่า การกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่เปิดให้บริการฟรีในช่วงที่ผ่านมานั้น ปัจจุบัน กทม.อยู่ระหว่างพิจารณาศึกษาอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม เบื้องต้นประเมินว่าจะมีเพดานราคาสูงสุดอยู่ที่ 158 บาท ซึ่งในวันที่ 16 ม.ค.นี้ กทม.จะมีการประกาศอัตราค่าโดยสารของส่วนต่อขยาย รวมทั้งค่าโดยสารสายหลักทั้งสายสุขุมวิทและสีลม โดยจะเปิดให้บริการนั่งฟรีถึงวันที่ 15 ก.พ.2564 จากเดิมกำหนดฟรีค่าโดยสารสิ้นสุดวันที่ 15 ม.ค.นี้ แต่ด้านกฎหมายกำหนดให้ผู้ให้บริการเดินรถต้องประกาศค่าโดยสารให้ผู้โดยสารทราบและเตรียมตัวก่อน 30 วัน หลังจากนั้นจะเริ่มจ่ายค่าโดยสารในวันที่ 16 ก.พ.2564
.
ยอมรับว่ามีความจำเป็นต้องจัดเก็บค่าโดยสารในอัตราที่สูงสุดในเพดานราคา 158 บาท เพราะปัจจุบันการเจรจากำหนดอัตราค่าโดยสารที่ 65 บาทตลอดสาย ยังไม่ได้ข้อสรุป ขณะเดียวกัน กทม.มีภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้กับเอกชนผู้รับจ้างเดินรถไฟฟ้าสายดังกล่าว ซึ่งเป็นภาระหนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยยืนยันว่าเพดานราคา 158 บาท แม้จะเป็นราคาที่สูง แต่เมื่อคำนวณต้นทุนทั้งหมด พบว่ากทม.ยังขาดทุน
.
สำหรับการศึกษาอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม ที่ประเมินว่าจะมีเพดานราคาสูงสุดอยู่ที่ 158 บาท ซึ่งเป็นการคำนวณมาจากอัตราค่าโดยสารสายสีเขียวหลักที่เก็บสูงสุด 44 บาท และมีการจัดเก็บเพิ่มเติมในเส้นทางส่วนต่อขยาย โดยอัตราค่าโดยสารที่กรุงเทพมหานครจะประกาศครั้งนี้ ซึ่งเป็นการกำหนดอัตราราคาเพิ่มเติมในช่วงส่วนต่อขยายสายใหม่ ทั้งสายเหนือหมอชิต-สะพานใหม่–คูคต และสายใต้ ช่วงแบริ่ง–สมุทรปราการ
.
ด้านนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ กล่าวว่า ปัจจุบันบีทีเอสยังไม่ได้รับแจ้งจากทางกทม.อย่างเป็นทางการถึงรายละเอียดการจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดสาย คาดว่าจะได้รับแจ้งข้อมูลจากทางกรุงเทพมหานครและประกาศให้ประชาชนรับทราบภายใน 16 ม.ค.นี้
.
ทั้งนี้หากมีการประกาศก็ต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จึงสามารถจัดเก็บค่าโดยสารได้ ดังนั้นต้นทุนการเดินทางก็จะยังเพิ่มขึ้นอยู่ ซึ่งปัจจุบันค่าจ้างเดินรถที่บีทีเอสต้องจัดเก็บจากทางกทม.มีอยู่กว่า 9,000 ล้านบาทแล้ว โดยบีทีเอสต้องแจ้งอัพเดตตัวอย่างอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นต้นทุนที่ต้องแบกรับ