ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐหลายสาขา ส่งซิกขึ้นดอกเบี้ยแรงเกินไป จะรวนกันหมด

263
0
Share:

นายเจมส์ บูลลาร์ด ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด สาขาเซ็นต์หลุยส์ กล่าวว่า ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนที่ร้อนแรง เป็นการยืนยันได้ว่า เป้าหมายดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดจะอยู่ในช่วง 3.75% ถึง 4.00% ในสิ้นปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.5% จากเดิมที่เคยมองไว้ก่อนหน้านี้ บางทีอาจไม่มีความแตกต่างกันมากนักที่จะปรับขึ้น 1.00% ในการประชุมสิ้นเดือนนี้ แล้วไปปรับขึ้นน้อยลงในการประชุมที่เหลืออีก 3 ครั้งหลังจากสิ้นเดือนกรกฎาคม หรือในทางกลับกัน ปรับขึ้น 0.75% ในวันที่ 26-27 กรกฎาคม หลังจากนั้นไปปรับเพิ่มสูงกว่าเดิมในการประชุมที่เหลือ

นายราฟาเอล บอสติก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟดสาขาแอตแลนต้า กล่าวเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นที่มากเกินความจำเป็นไปนั้น อาจไปทำให้ลดทอนภาวะการจ้างงานในสหรัฐอเมริกาที่ยังไปได้ดี และแนวโน้มบวกด้านอื่นๆ ที่ยังคงมีในเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ในขณะที่เมื่อวานก่อนหน้านี้ นายราฟาเอล บอสติกตอบคำถามที่ว่าความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นสูงถึง 1% นั้น ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนอยู่ในการตัดสินใจของเฟด

ขณะที่ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา 2 สาขา ได้แก่ แมรี่ เดลี่ ผู้ว่าการเฟดสาขาซาน ฟรานซิสโก และลอเรตต้า เมสเตอร์ ผู้ว่าการเฟดสาขาคลีฟแลนด์ ล้วนมีมุมมองว่าการประชุมของเฟดในสิ้นเดือนนี้ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% ซึ่งเป็นผลจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าภาวะเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามุมมองดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่เงินเฟ้อเดือนมิถุนายนจะพุ่งสูงกว่าที่คาดไว้ไปถึง 9.1%

หากเฟดตัดสินใจปรับอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 1% จะเป็นสถิติการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นที่มากที่สุดนับตั้งแต่เฟดเริ่มใช้อัตราดอกเบี้ยข้ามคืนมาใช้บริหารดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในยุคทศวรรษ 1990 เป็นต้นมา หรือในรอบกว่า 32 ปี

นักวิเคราะห์จากซีเอ็มอี กรุ๊ป ในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ขณะนี้โอกาสเพิ่มตาก 11% มาเป็น 80% ที่จะได้เห็นคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด ปรับขึ้นดอกเบี้ย 1% ในการประชุมช่วง 2 วันติดต่อกันในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนนี้

ด้านทีมนักเศรษฐศาสตร์โนมูระ ซิเคียวริตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า ในการประชุมของเฟดในวันที่ 26-27 กรกฎาคมนี้ เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น 1% จากแรงกดดันของอัตราเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนที่พุ่งสูงถึง
9.1% มากที่สุดในรอบ 41 ปี