ผู้ว่าแบงก์ชาติชี้อีสานก่อหนี้ครัวเรือนสูงสุดในประเทศ คนอีสานติดหนี้เรื้อรังสูง

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติ กล่าวว่า สัดส่วนการก่อหนี้ครัวเรือนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน เติบโตเร็วที่สุดเมื่อเทียบกับภาคอื่นๆ เมื่อย้อนดูข้อมูลย้อนหลังในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา พบชัดเจนว่า หนี้ครัวเรือนในภาคอีสานมีหนี้เพิ่มขึ้นถึงกว่า 50% สิ่งสำคัญ คือ ประชาชนคนอีสานมีโอกาสสูงที่จะเป็นหนี้เรื้อรังสูง โดยเฉพาะพบได้ในคนอายุ 70 ปี ที่ยังไม่สามารถปิดหนี้ไม่ได้ กลายเป็นสภาวะติดกับดักหนี้ไม่จบ

นอกจากนั้น ประชาชนคนอีสานยังเป็นหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลสูงมากถึง 30% และอย่างที่รู้กันว่าสินเชื่อนี้มีดอกเบี้ยที่สูงมาก ทำให้จะต้องดูแลเกษตรกรภาคอีสานให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่นเดียวกับวิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ที่ต้องดูแล เพราะหลังจากจบมาตรการสินเชื่อฟื้นฟู เพื่อช่วยเหลือในช่วงโควิดที่ผ่านมา ยอดสินเชื่อที่เอสเอ็มอีได้รับเริ่มปรับลดลง

ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวต่อไปว่า เป็นห่วงภัยการเงินออนไลน์ หรือภัยไซเบอร์ในภาคอีสาน เนื่องจากเป็นภาคที่มีสถิติถูกหลอกลวงมากที่สุดเมื่อเทียบกับภาคอื่นๆ สาเหตุเกิดจากพื้นที่ภาคอีสานกว้าง และมีประชากรจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ภาระหนี้ที่สูงทำให้มิจฉาชีพใช้เป็นหนทางในการหลอกลวง โดยเฉพาะแอปเงินกู้ปลอม และแอปแก้หนี้ที่โดนกันบ่อยมาก จึงขอเตือนว่า ธนาคารพาณิชย์จะไม่มีการส่งลิงก์ใดๆ ไปยังลูกค้าทั้งสิ้น

สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจภาคอีสานในปีนี้นั้น คาดการณ์ว่า การขยายตัวภาคอีสานจะติดลบ 1-2% และปีหน้าจะขยายตัวเพียง 0.4-1.4% ซึ่งต่ำกว่าเศรษฐกิจไทยภาพรวมที่โตประมาณ 3-4% สาเหตุจากภาคอีสานมีเศรษฐกิจส่วนใหญ่ที่พึ่งพาภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรรวมกว่า 30% ของมูลค่ารวม ส่งผลให้เศรษฐกิจภาคอีสานอาจจะไม่ขยายตัวสูงมากเท่าการขยายตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม นอกจากนี้ ในช่วงปลายปี 2566 ต่อเนื่องถึงปี 2567 จะเกิดปรากฏการณ์เอลนินโญ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาภัยแล้ง ขณะเดียวกันอีกปัญหาใหญ่ที่กระทบการใช้จ่ายในภาคอีสาน คือ ภาคอีสานเป็นหนี้ครัวเรือนสูงที่สุดเมื่อเทียบภาคอื่นๆ หรือประมาณ 22% ของทั้งประเทศ โดยหนี้ส่วนใหญ่เป็นหนี้เกษตรกร

ทั้งนี้ ผู้ว่าแบงก์ชาติกล่าวทิศทางเศรษฐกิจการเงินไทย ในงานสัมมนาวิชาการประจำปี 2566 ซึ่งจัดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น ในหัวข้อ “ขับเคลื่อนภาคเกษตรอีสานให้ “เปลี่ยนผ่าน” สู่ความยั่งยืน”