ฝนถล่ม-น้ำท่วมหนักในจีน ส่อดันราคาข้าวตลาดโลกแพงต่อ ดัชนีราคาข้าวโลกแพงใน 12 ปี

ฟิทช์ เรทติ้งส์ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือในการลงทุนชื่อดังระดับโลก เปิดเผยว่า สภาวะฝนตกหนักในจีนแผ่นดินใหญ่ในรอบ 140 ปี โดยเฉพาะปริมาณน้ำฝนมีมากถึงภาวะน้ำท่วมสูงในภูมิภาคตอนเหนือ และภาคตะวันออกของจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวสำคัญของจีนแผ่นดินใหญ่ จะส่งผลกระทบต่อการผลิตข้าวให้ลดลง ในเวลาเดียวกัน จะทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นอีกจากในปัจจุบัน

นอกจากนี้ พื้นที่เพาะปลูกข้าวในส่วนอื่นๆอีกหลายแห่งในเขตปกครองตนเอง เช่น มองโกเลียใน จี๋หลิน และเฮยหลงเจียง โดยทั้ง 3 ภูมิภาคเหล่านี้สามารถผลิตข้าวได้ในอัตราส่วน 23% ของผลผลิตข้าวทั่วประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ล้วนได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำฝนที่ท่วมสูง ซึ่งมีสาเหตุจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นทกซูรีในสัปดาห์ผ่านไป ที่สำคัญ ผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นยังคงมีต่อเนื่อง ล่าสุดพายุขนุนกำลังเคลื่อนตัวสู่พื้นที่ตอนเหนือของจีน

ดังนั้น ราคาข้าวในประเทศจีนจะพุ่งสูงขึ้นอีก รัฐบาลจีนอาจต้องนำเข้าข้าวจากตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า หรือปี 2567 เพื่อชดเชยผลผลิตข้าวภายในประเทศที่ลดลง

ก่อนหน้านี้ เมื่อสัปดาห์ผ่านไป องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือเอฟเอโอ (FAO) เปิดเผยดัชนีราคาข้าวทั่วโลกเดือนกรกฎาคม พุ่งขึ้น 2.8% มาอยู่ที่ระดับ 129.7 จุด สาเหตุจากรัฐบาลอินเดียประกาศมาตรการห้ามส่งออกข้าวแทบทุกชนิด ตัวเลขดังกล่าวไม่เพียงพุ่งขึ้น 19.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ยังทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2011 หรือในรอบเกือบ 12 ปี

เอฟเอโอ เปิดเผยว่าปรากฏการณ์เอลนีโญที่มีต่อการผลิตเกษตรของบางประเทศที่ผลิตข้าวนั้น เป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาข้าวเพิ่มสูง นอกจากนี้ ผลผลิตข้าวยังได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ปัจจัยคุณภาพข้าวไม่คงที่ของประเทศเวียดนามซึ่งยังคงอยู่ในระหว่างการเก็บเกี่ยวในฤดูร้อน-ฤดูใบไม้ร่วงด้วย