พฤติกรรมคนไทยซื้อที่อยู่อาศัยกทม.และปริมณฑลมากสุด ราคา 3 ล้านบาทเป็นตลาดใหญ่สุด

227
0
Share:
พฤติกรรม คนไทย ซื้อ ที่อยู่อาศัย กทม.และปริมณฑลมากสุด ราคา 3 ล้านบาทเป็นตลาดใหญ่สุด

ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย เผยข้อมูลเชิงลึกจากผู้เข้าเยี่ยมชมในเว็บไซต์ www.ddproperty.com ในปี 2566 ซึ่งเป็นการเก็บข้อมูลเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2566 รวม 11 เดือน สะท้อนข้อสรุปมีดังนี้

10 จังหวัดยอดนิยมในประเทศไทยที่ซื้อที่อยู่อาศัยมากที่สุดในปี 2566 พบว่า กรุงเทพฯ ครองความนิยมซื้อมากที่สุด อันดับ 2 นนทบุรี อันดับ 3 สมุทรปราการ อันดับ 4 ปทุมธานี อันดับ 5 ชลบุรี อันดับ 6 เชียงใหม่ อันดับ 7 นครปฐม อันดับ 8 ระยอง อันดับ 9 นครราชสีมา และอันดับ 10 สมุทรสาคร

กรุงเทพและและปริมณฑล ซึ่งอยู่ในอันดับ 1-4 นั้น สะท้อนถึงความเจริญของเมืองหลวงที่วางรากฐานระบบสาธารณูปโภคและพัฒนาระบบคมนาคมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้อานิสงส์จากโครงการรถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ และปริมณฑลให้สะดวกยิ่งขึ้น จึงมีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น เป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลให้ความต้องการซื้อที่อสังหาฯ เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

ในแง่ประเภทอสังหาฯ พบว่าคอนโดมิเนียมมีความสนใจซื้อมากที่สุดในปี 2566 โดยมีสัดส่วนมากถึง 43% อันดับ 2 คือ ที่อยู่อาศัยแนวราบอย่างบ้านเดี่ยว 38% และอันดับ 3 คือ ทาวน์เฮ้าส์ 19% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการอยู่อาศัยที่เปลี่ยนไปเป็นผลจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขยายโครงการไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเฉพาะคอนโดที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ ส่งผลให้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยประเภทนี้ยังได้รับความสนใจจากผู้ซื้ออย่างต่อเนื่อง

ราคาที่อยู่อาศัยสนใจซื้อมากที่สุด พบว่า ราคา 1-3 ล้านบาท มีสัดส่วนถึง 38% สะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อส่วนใหญ่ของคนหาบ้านทั่วประเทศที่อยู่ในกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางและล่าง เป็นกลุ่มราคาจับต้องได้ ขณะที่อันดับ 2 กลุ่มราคา 3-5 ล้านบาทอยู่ที่ 21% และอ้นดับ 3 กลุ่มราคา 5-10 ล้านบาทอยู่ที่ 18%

สัดส่วนที่อยู่อาศัยกลุ่มราคา 3-5 ล้านบาท รวมกับกลุ่มราคา 5-10 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ากลุ่มราคา 1-3 ล้านบาท เป็นผบจากผู้บริโภคกลุ่มกลาง-บน ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจน้อยกว่าผู้บริโภคระดับล่าง จึงมีความพร้อมทางการเงินในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยที่มีราคาสูง สอดคล้องกับข้อมูลจากบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือ เครดิตบูโร ระบุว่ากลุ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัยราคา 1-3 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง เริ่มเห็นสัญญาณมีปัญหาในการผ่อนชำระมากขึ้น และเห็นการไหลจากสินเชื่อปกติเป็นกลุ่มสินเชื่อกล่าวถึงเป็นพิเศษ (SM) หรือค้างชำระตั้งแต่ 31 วัน แต่ไม่เกิน 90 วัน มากขึ้น

ส่วนท็อป 10 จังหวัดยอดนิยมตลาดเช่าที่อยู่อาศัย พบว่า อันดับ 1 คือ กรุงเทพ อันดับ 2 นนทบุรี อันดับ 3 สมุทรปราการ อันดับ 4 เชียงใหม่ อันดับ 5 ภูเก็ต อันดับ 6 ชลบุรี อันดับ 7 ขอนแก่น อันดับ 8 ปทุมธานี อันดับ 9 นครราชสีมา และอันดับ 10 อุดรธานี

ในแง่ประเภทอสังหาริมทรัพย์ พบว่าผู้เช่าเกือบ 4 ใน 5 คน หรือ 80% สนใจเช่าคอนโดมิเนียมมากที่สุด โดยมีสัดส่วนสูงถึง 79% ของประเภทอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด สาเหตุจาก ผู้ประกอบการพัฒนาโครงการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้น จึงครอบคลุมไลฟ์สไตล์แต่ละช่วงวัยได้เป็นอย่างดี ส่วนอันดับ 2 เป็นบ้านเดี่ยวที่ 13% และอันดับ 3 คือ ทาวน์เฮ้าส์ 8%

ด้านราคาตลาดเช่าที่อยู่อาศัยได้รับความสนใจมากสุดในปี 2566 พบว่า ผู้เช่า 62% สนใจราคาเช่าไม่เกิน 20,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาค่าเช่าที่เหมาะสมในการหาโครงการที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีพื้นที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้อยู่อาศัย และอยู่ในทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกล้อมรอบ เดินทางได้ง่าย

นอกจากนี้ อัตราค่าเช่า 10,000-20,000 บาท/เดือน มีสัดส่วน 36% อันดับ 2 อัตราค่าเช่าไม่เกิน 10,000 บาท/เดือน มีสัดส่วน 26% และอันดับ 3 อัตราค่าเช่ามากกว่า 30,000 บาท/เดือน มีสัดส่วน 23%