‘พันธุ์โอไมครอน’ ทุบปีใหม่ใช้จ่ายต่ำสุดในรอบ 12 ปี สูญเงินกว่า 3-5 หมื่นล้านบาท

427
0
Share:

รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลการสำรวจทัศนะ และพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงวันปีใหม่ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอนส่งผลให้บรรยากาศในช่วงเทศกาลปีใหม่ไม่คึกคัก โดยคาดการณ์ว่าค่าใช้จ่ายในช่วงปีใหม่อยู่ที่ 85,796.49 ล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 12 ปี แบ่งเป็นการเที่ยวในประเทศ 47,909 ล้านบาท ต่างประเทศ 1,732 ล้านบาท การเลี้ยงสรรค์ 10,027 ล้านบาท ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 15,786 ล้านบาท ทำบุญ 7,873 ล้านบาท เป็นต้น

ซึ่งเดิมคาดว่าจะมีเงินสะพัด 1.3 แสนล้านบาทจากการจัดกิจกรรมปีใหม่ แต่โอไมครอนส่งผลให้กิจกรรมปีใหม่เงินสะพัดลดลง 8.5 หมื่นล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 12 ปีนับจากปี 2554 และยอดใช้จ่ายและท่องเที่ยวต่อคนต่ำสุดในรอบ 15 ปี และการยกเลิกเคาต์ดาวน์กระทบต่อเศรษฐกิจเงินหายไป 3-5 หมื่นล้านบาท

เมื่อสอบถามถึงสิ่งที่ต้องการได้เป็นของขวัญจากรัฐบาล คือ 1. การบริหารประเทศอย่างโปร่งใส 2.การปราบปรามทุจริตอย่างจริงจัง 3. การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น และดำเนินงานยอย่างมีประสิทธิภาพ 4.จัดแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง เช่น คนละครึ่ง ชิมช้อปใช้ เป็นต้น 5.การแก้ปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19ให้หมดไปจากประเทศ

ทั้งนี้สิ่งที่อยากให้รัฐบาลดำเนินการในปี 2565 อันดับแรกคือ ดูแลค่าครองชีพให้เหมาะสมมีการปรับเพิ่มค่าแรง ค่าจ้างเพื่อเพิ่มกำลังซื้อ ขณะที่การดูแลปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ควรจัดหาวัคซีนที่ดี เร่งกระจายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมทั้งต้องการให้แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ พร้อมมาตรการพักชำระหนี้ให้ประชาชน ประชาชนยังมีความกังวลกับภาวะเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของโควิดโอไมครอนทำให้ระมัดระวังการใช้จ่าย โดยมองว่าเศรษฐกิจยังฟื้นไม่ชัดเจน แม้ว่าหลังจากเปิดประเทศมา มีการคาดการณ์ว่าแนวโน้มจะดีขึ้นก็ตาม