พาณิชย์แนะเกษตรกรนำไม้ยืนต้น มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันขอสินเชื่อกับธ.ก.ส.ได้

937
0
Share:

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีข้อแนะนำถึงเกษตรกรที่ปลูกไม้ยืนต้นในพื้นที่ของตัวเอง และมีปัญหาขาดแคลนเงินทุนที่ใช้ในการดำเนินชีวิต ใช้จ่ายในครัวเรือน และการประกอบอาชีพ ช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สามารถที่จะนำไม้ยืนต้นที่มีค่ามาจดทะเบียนเป็นหลักประกันทางธุรกิจกับสถาบันการเงินได้
.
ซึ่งล่าสุดกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รับไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจแล้ว โดยถือเป็นธนาคารแรกที่เกษตรกรสามารถใช้ไม้ยืนต้นที่มีค่ามาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้เงิน ตาม พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ.2558
.
สำหรับเกษตรกรที่ต้องการกู้เงิน และใช้ไม้ยืนต้นที่มีค่ามาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ต้องเป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส. และเป็นสมาชิกธนาคารต้นไม้ โดยสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ซึ่งขั้นตอนการกู้เงินเป็นไปตามระเบียบของ ธ.ก.ส. ไม่มีความยุ่งยากซับซ้อน
.
ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ออกกฎกระทรวงกำหนดให้ไม้ยืนต้นเป็นทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจได้ ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย.2561 โดยมีแนวทางส่งเสริมให้ใช้ไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจทั้งเชิงพาณิชย์ รวมทั้งส่งเสริมเชิงอนุรักษ์ผ่าน ธ.ก.ส. เนื่องจากเป็นธนาคารที่มีการดำเนินโครงการธนาคารต้นไม้
.
ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ ธ.ก.ส.ได้ดำเนินการนำร่อง ณ ศูนย์เรียนรู้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ บ้านดอนศาลเจ้า อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี โดย ธ.ก.ส. ให้ผู้ที่ผ่านการอบรมผู้ประเมินมูลค่าต้นไม้ของ ธ.ก.ส. เป็นผู้ประเมินราคาต้นไม้ของเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ ทำให้การนำไม้ยืนต้นที่มีค่ามาเป็นหลักประกันทางธุรกิจสามารถดำเนินได้อย่างสะดวก รวดเร็ว มากยิ่งขึ้น และจะมีการขยายโครงการดังกล่าวให้ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศอีกด้วย
.