พาณิชย์โอดแล้งหนัก ดันราคาของขึ้น

585
0
Share:

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวถึงสถานการณ์ราคาสินค้าทางการเกษตรในปี 2563 ว่า ปีนี้สถานการณ์ภัยแล้งจะรุนแรงมากขึ้น จนทำให้กระทบต่อปริมาณผลผลิตที่จะออกมาสู่ท้องตลาด โดยในภาพรวมสินค้าเกษตรจะมีราคาสูงขึ้นเพราะปริมาณลดลง เช่น ข้าว เนื้อสุกร ผักที่ใช้น้ำในการเพาะปลูกมาก ส่วนของข้าวนาปรังปีนี้จะลดลงจาก 8 ล้านตันข้าวเปลือก เหลือเพียง 3.5-4 ล้านตันข้าวเปลือก หรือลดลงกว่า 50% ตามการประเมินของกรมการข้าว ซึ่งถือว่าเป็นการลดลงจำนวนมาก จนทำให้ ราคาข้าวเปลือกเจ้าคาดว่าจะอยู่ที่ตันละ 9,000-10,000 บาท ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 15,000 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 14,000-15,000 บาท
.
ส่วนราคาเนื้อสุกร กรมจะจับตาเป็นพิเศษ เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัดหมูโตช้าและมีการส่งออกจำนวนมาก เนื่องจากราคาต่างประเทศสูงกว่าราคาในประเทศ โดยกรม จะดูแลราคาให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม หน้าฟาร์มกิโลกรัมละ 75-80 บาท และราคาหน้าเขียงอยู่ที่ 150-160 บาท หากสูงเกินจะหารือกับสมาคม เพื่อจำกัดปริมาณการส่งออกซึ่งก็จะช่วยให้ราคาในประเทศไม่สูงจนเกินไป
.
ส่วนผักสดที่ใช้น้ำมากอาจได้รับผลกระทบปริมาณลดลง จะหารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้มีการปลูกผักอายุสั้นทดแทน รวมถึงมะนาว คาดว่าปริมาณจะลดลงแต่ไม่ถึงขั้นขาดแคลน โดยช่วงนี้ผู้ประกอบการร้านอาหารมีการปรับตัว โดยการซื้อมะนาวล่วงหน้าแช่แข็งไว้รอใช้งานในช่วงที่มะนาวมีราคาสูง
.
ส่วนน้ำมันปาล์มขวด ขณะนี้มีแนวโน้มราคาปรับสูงขึ้น จากการที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งปีที่ผ่านมา ทำให้มีการเร่งรัดตัดผลปาล์มสุกเร็วขึ้น รวมทั้งการเข้มงวดปราบปรามน้ำมันปาล์มเถื่อนทำให้ราคาผลปาล์มสดเพิ่มจาก ราคา 2.50-3 บาทต่อก.ก. เป็น 6-7 บาทต่อก.ก. ซึ่งจะทำให้ปาล์มขวด 1 ลิตร ราคาเพิ่มจาก 38 บาทเป็น 42-43 บาทต่อขวด 1 ลิตร ซึ่งได้ขอความร่วมมือห้างให้ช่วยดูแล และให้ขายตามปกติ และผู้ซื้อไม่ต้องไปกักตุนเพราะมีสต๊อกเพียงพอ ที่กว่า 3 แสนตัน
.
ขณะที่สถานการณ์ราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้ หลังจากมีความกังวลจากเหตุความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับอิหร่านนั้น เชื่อว่าจะเป็นผลเพียงชั่วคราวและราคาน้ำมันตลาดโลกได้มีการปรับตัวลดลงแล้ว เพราะเชื่อว่าความตึงเครียดดังกล่าวจะไม่เกิดผลบานปลายกลายเป็นสงคราม ทางผู้ประกอบการจะใช้เหตุผลของราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวสูงขึ้นมาเป็นข้ออ้างในการปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นไม่ได้ หากมีการฉวยโอกาสจากสถานการณ์ดังกล่าว จะมีการเอาผิดตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด