พาณิชย์ ปักหมุด ลุยตลาดฮ่องกงและปักกิ่ง ขยายตลาดข้าวหอมมะลิไทยและมันสำปะหลัง

228
0
Share:
พาณิชย์ ปักหมุด ลุยตลาดฮ่องกงและปักกิ่ง ขยายตลาด ข้าวหอมมะลิ ไทยและมันสำปะหลัง

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เร่งเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ทางการค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและขยายตลาดข้าวหอมมะลิไทยและมันสำปะหลังในตลาดต่างประเทศ ซึ่งกรมฯ ได้จัดคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนเดินทางเยือนเขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกง เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2566 และกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 11–15 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา โดยในการเยือนเขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกง กรมฯ ได้พบปะหารือกับกรมการค้าและอุตสาหกรรมของฮ่องกง (Trade and Industry Department: TID) ในประเด็นต่างๆ อาทิ การควบคุมคลังสินค้า ถิ่นกำเนิดสินค้า กฎระเบียบทางการค้า ใบอนุญาตส่งออก เป็นต้น ตลอดจนการทำและการบังคับใช้ความตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement) ในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี ซึ่งอธิบดีกรมการค้าและอุตสาหกรรมของฮ่องกง (Ms. Maggie Wong) ได้ขอบคุณรัฐบาลไทยที่ช่วยสนับสนุนฮ่องกงในกระบวนการสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) ซึ่งความตกลงดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมและขยายมูลค่าการค้าระหว่างฮ่องกงและประเทศสมาชิก เนื่องจากฮ่องกงเป็นเมืองปลอดภาษี และเปรียบเสมือนเป็นประตูในการกระจายสินค้าเข้าสู่ทั่วประเทศจีน

อีกทั้งยังนำกลุ่มสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ประกอบด้วย ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และ นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ของสมาคมฯรวม 16 ราย เข้าพบหารือกับสมาคมผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงและบริษัทผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงรายสำคัญ ซึ่งบรรยากาศในการหารือเป็นไปด้วยความเชื่อมั่นและสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดี เนื่องจากทั้งสองฝ่ายเป็นคู่ค้ากันมาอย่างยาวนาน โดยที่ประชุมได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้าข้าวระหว่างกัน

ปัจจุบันฮ่องกงเป็นตลาดส่งออกข้าวที่สำคัญของไทย ในแต่ละปีไทยส่งออกข้าวไปฮ่องกง ประมาณ 170,000–188,000 ตัน โดยประมาณ 70–80 % เป็นการส่งออกข้าวหอมมะลิไทย โดยฮ่องกงอยู่อันดับ 1 ใน 3 ของตลาดข้าวหอมมะลิไทยมาโดยตลอด และข้าวไทยยังคงครองส่วนแบ่งตลาดข้าวฮ่องกงเป็นอันดับ 1 คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60 % ของตลาดข้าวฮ่องกง และในส่วนการนำคณะผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนพบปะหารือและกระชับความสัมพันธ์ทางการค้ากับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของจีน ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยกรมฯ ได้เข้าพบหารือกับองค์การบริหารจัดการกฎระเบียบตลาดแห่งรัฐของจีน (State Administration for Market Regulation: SAMR) ซึ่งกรมฯ ได้ขอบคุณ SAMR ที่สั่งปิดโรงงานและดำเนินคดีอย่างรวดเร็วกับโรงงานที่นำข้าวที่ปลูกในจีนแอบอ้างเป็นข้าวหอมมะลิไทยและวางจำหน่ายในจีน

นอกจากนี้กรมฯ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพ/มาตรฐานข้าวหอมมะลิไทย และวิธีการสังเกตหรือเลือกซื้อข้าวหอมมะลิไทยที่ส่งจากประเทศไทย ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า กรณีตรวจพบการปลอม/แอบอ้างเป็นข้าวหอมมะลิไทย และการปลอมแปลงตราสินค้าและเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยให้ดำเนินการร่วมกันอย่างทันที นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้พบหารือกับผู้นำเข้าและผู้ประกอบการสินค้าข้าวในจีน เพื่อประชาสัมพันธ์ข้าวไทยและข้าวหอมมะลิไทยควบคู่กับเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยให้รับทราบถึงคุณภาพและมาตรฐานข้าวไทยด้วย และยังได้หารือกับหน่วยงาน COFCO Corporation ซึ่งเป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้รัฐบาลจีนและเป็นบริษัทชั้นนำด้านการผลิตและการนำเข้าธัญพืชของจีน

อย่างไรก็ตาม ในแต่ละปีไทยส่งออกข้าวไปจีนประมาณ 0.6–0.7 ล้านตัน/ปี ส่วนใหญ่เป็นการส่งออกข้าวขาวและข้าวหอมมะลิไทย นอกจากนี้ กรมฯ ยังมีกำหนดจะจัดคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนเดินทางไปพบปะหารือและกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าข้าวกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของคู่ค้าที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ในเดือนกรกฎาคม และมาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และญี่ปุ่น ในเดือนสิงหาคมนี้อีกด้วย

“ยอมรับว่าตลาดจีนแม้จะมีการนำเข้าข้าวไทยที่น้อยลงไปเล็กน้อย แต่ด้วยจากความร่วมมือใกล้ชิดกับภาคเอกชนยังมั่นใจว่าจะทำตลาดข้าวทุกช่องทางในตลาดจีนให้มากขึ้น เพราะเท่าที่สำรวจผู้บริโภคชาวจีนยังต้องการข้าวไทยเพิ่มขึ้น และไม่เพียงตลาดจีนและฮ่องกงเท่านั้น โดยหลายประเทศยังสนใจข้าวไทย ดังนั้น ยอดส่งออกข้าวไทยในปี 66 จะเกิน 8 ล้านตัน โดยตัวเลขส่งออกข้าวไทยตั้งแต่มกราคม-พฤษภาคม 66 ส่งออกไปแล้วกว่า 3.47 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา 15% คิดเป็นมูลค่ากว่า 64,322 ล้านบาท แม้ว่าปีนี้จะเกิดปัญหาภัยแล้งในหลายพื้นที่ แต่ปัญหานี้เกิดขึ้นทั่วโลกและกระทบต่อการเพาะปลูกพืชผลการเกษตรหลายประเทศด้วยเช่นกัน จึงมองว่ายังเป็นโอกาสที่หลายประเทศสนใจสั่งซื้อข้าวไทยเข้ามาต่อเนื่อง” นายรณรงค์กล่าว

นอกจากนี้ยังเชื่อมั่นว่าผู้นำเข้าจีนยังมีความต้องการมันสำปะหลังไทยอีกมาก ซึ่งจีนเป็นตลาดส่งออกสินค้ามันสำปะหลังอันดับ 1 ของไทย คิดเป็น 65 % ของมูลค่าการส่งออกสินค้ามันสำปะหลังไทย โดยไทยส่งออกสินค้ามันสำปะหลังไปจีนประมาณ 8 ล้านตัน/ปี ได้แก่ มันเส้น/มันอัดเม็ด 69 %แป้งมันสำปะหลัง 30 % และ สาคู/กากมัน 1%