พาณิชย์ เผยธุรกิจจัดตั้งใหม่ ต.ค. 65 เพิ่มกว่า 5,900 ราย หลังโควิดผ่อนคลาย

232
0
Share:
พาณิชย์ เผย ธุรกิจ จัดตั้งใหม่ ต.ค. 65 เพิ่มกว่า 5,900 ราย หลังโควิดผ่อนคลาย

นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่าในภาพรวมของเศรษฐกิจ ในหลายภาคส่วนธุรกิจเริ่มทยอยกลับมาฟื้นตัว จากการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ตามปกติ และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุน ซึ่งสะท้อนได้จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น และแม้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจจะลดลงเล็กน้อย เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อของหลายประเทศในโลก ที่ส่งผลต่อกำลังซื้อจากต่างประเทศจากปัจจัยดังกล่าว ประกอบกับข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ของนิติบุคคล 3 ปีย้อนหลัง (ปี 2562-2564) พบว่า แนวโน้มของจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ จะมีจำนวนสูงในช่วงต้นปีและจะทยอยลดลงในช่วงปลายปี กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจึงคาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ตลอดทั้งปี 2565 อยู่ระหว่าง 68,000-72,000 ราย

สำหรับภาพรวมตัวเลขจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนตุลาคม 2565 พบว่ามีจำนวน 5,911 ราย เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีจำนวน 5,555 ราย และลดลง 18% เมื่อเทียบเดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวน 7,219 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 34,606.73 ล้านบาท เป็นผลจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ความเชื่อมั่นของประชาชนเพิ่มขึ้น จากโควิดผ่อนคลาย

โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 502 ราย คิดเป็น 9% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 479 ราย คิดเป็น 8% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 273 ราย คิดเป็น 5%

ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนตุลาคม 2565 พบว่ามีจำนวน 1,973 ราย ลดลง 0.1% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีจำนวน 1,976 ราย และเพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยมีมูลค่า ทุนจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการจำนวน 7,315.55 ล้านบาท ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 166 ราย คิดเป็น 8% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 125 ราย คิดเป็น 6% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 44 ราย คิดเป็น 2% ตามลำดับ

ทั้งนี้พบว่าขณะนี้มีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 31 ต.ค. 65) ธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 849,958 ราย มูลค่าทุน 20.56 ล้านล้านบาท

ขณะที่การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ 10 เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค.-ต.ค.) มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ จำนวน 66,707 ราย และการจดทะเบียนเลิกของ 10 เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค.-ต.ค.) มีจำนวน 13,412 ราย

ด้านการลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าว เดือนตุลาคม 2565 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น มีจำนวน 44 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 17 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 27 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 7,059 ล้านบาท เป็นผลให้ในปี 2565 (มกราคม-ตุลาคม 2565) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น จำนวน 480 ราย เพิ่มขึ้น 8% เงินลงทุน 106,437 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (มกราคม-ตุลาคม 2564)

สำหรับนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด 3 สัญชาติแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 15 ราย เงินลงทุน 2,756 ล้านบาทรองลงมา ได้แก่ ฮ่องกง จำนวน 5 ราย เงินลงทุน 579 ล้านบาท และสิงคโปร์ จำนวน 4 ราย เงินลงทุน 268 ล้านบาท