“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ไม่ผ่านด่าน ส.ว. ในครั้งแรก จากคะแนนไม่ถึง 375 เสียง

274
0
Share:
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ผ่านด่าน ส.ว. ในครั้งแรก จากคะแนนไม่ถึง 375 เสียง

วันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ที่รัฐสภา รายงานข่าวเปิดเผยว่าในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ซึ่งมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะสมาชิกรัฐสภา เข้าร่วมการประชุม โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธาน

จากนั้นนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อลงมติเป็นนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว และไม่มีพรรคไหนเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งเพิ่มเติม

โดยได้มีการกำหนดเวลาในการอภิปราย 6 ชั่วโมง และกำหนดเวลาในการเริ่มลงมติตั้งแต่ 17.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งเป็นการลงมติแบบขานชื่อตามตัวอักษร ซึ่งการลงมติครั้งนี้ต้องได้คะแนนเสียง 375 เสียงขึ้นไป นายพิธา จึงจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกรัฐสภา 749 คน เนื่องจากมี ส.ว. 1 คนลาออก

จากนั้นเมื่อเวลา 15.51 น. วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้กล่าวปิดการอภิปราย แล้วจึงเข้าสู่การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีตามขั้นตอนแบบเปิดเผย คือการขานชื่อสมาชิกรัฐสภาตามตัวอักษร โดยให้โหวตว่า “เห็นชอบ หรือ ไม่เห็นชอบ หรือ งดออกเสียง” ขอให้ออกเสียงลงคะแนนในลักษณะนี้ ไม่ควรมีการพูดอะไรเพิ่มเติม ส่วนกรณีเมื่อขานชื่อแล้วไม่อยู่ในที่ประชุม จะให้โหวตต่อท้ายจากการขานชื่อครบทั้งหมดแล้ว

และต่อมาเวลา 15.58 น. ประธานรัฐสภา กดออดแจ้งให้สมาชิกรัฐสภาแสดงตนเพื่อตรวจสอบองค์ประชุม โดยที่ประชุมรัฐสภาเริ่มขานชื่อลงมติก่อนกำหนดในเวลา 16.05 น.

ทั้งนี้ใช้เวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมง สรุปแล้วว่าผลการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ปรากฏว่า นายพิธา ได้เสียงเห็นด้วย ไม่ถึง 375 เสียง โดยมีส.ว.เห็นชอบ ไม่ถึง 65 เสียง ทำให้ไม่ผ่านการโหวตนายกรัฐมนตรีในครั้งแรก ซึ่งจะมีการเสนอชื่อ นายพิธา อีกครั้งในวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 นี้ ต่อไป