พี่ศรีอีกแล้ว! ‘ศรีสุวรรณ’ ร้อง กกต. สอบบัตรส่วนลดเอื้อพรรคส้ม เข้าข่ายซื้อเสียง

198
0
Share:
พี่ศรีอีกแล้ว! ศรีสุวรรณ ร้อง กกต. สอบบัตรส่วนลดเอื้อ พรรคส้ม เข้าข่ายซื้อเสียง

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ไต่สวนกรณี โค้ดบัตรส่วนลดของกิจการร้านค้าบางแห่งที่มอบให้กับลูกค้าที่ไปซื้อขายสินค้า และบางแห่งในสลิปการจ่ายเงินปรากฏข้อความการช่วยหาเสียงให้กับพรรคการเมืองหนึ่ง หลังจากมีประชาชนส่งพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งเข้ามาที่ตนเป็นจำนวนมาก และได้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก

โดยสมาคมฯ เห็นว่าเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. ตามกฎหมายในหลายประเด็น

ประเด็นแรก การที่มีผู้ทำบัตรลดแลกแจกแถมให้กับพรรคการเมืองสีส้ม ซึ่งก็เป็นประเด็นว่าการที่ห้างร้าน สถานประกอบการ ทำบัตรลดให้กับพรรคการเมืองเพื่อจูงใจให้ไปเลือกตั้งพรรคดังกล่าว จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 73(1) และ (5) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 หรือไม่ เพราะกฎหมายกำหนดไว้ว่าห้ามบุคคลใด หรือผู้สมัคร ดำเนินการให้ จัดทำให้ หรือผลประโยชน์อื่นใดที่คำนวณเป็นเงินได้ ให้แก่บุคคลใด หรือใน (5) ห้ามมิให้บุคคลใดจูงใจให้บุคคลอื่นมาเลือกผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด การทำบัตรส่วนลดให้กับผู้ที่ซื้อขายสินค้า และบริการ อาจจะเข้าข่ายในความผิดนี้หรือไม่

ประเด็นที่ 2 มีสถานบริการ กิจการขายของพิมพ์ข้อความลงในใบเสร็จรับเงินของร้าน ว่า วันที่ 14 พ.ค. ขอให้ช่วยไปกาเบอร์นี้ พรรคสีส้ม การกระทำดังกล่าวเป็นการช่วยหาเสียงโดยชัดเจน แต่การช่วยหาเสียงเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ในกรณีดังกล่าวต้องถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งด้วย ซึ่งเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองที่บุคคล หรือห้างร้านดังกล่าวต้องไปคิดคำนวณค่าใช้จ่าย เป็นค่าใช้จ่ายการเลือกตั้ง โดยหลังการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.ไปแล้ว ต้องมารายงาน กกต. ภายใน 90 วัน หากไม่ดำเนินการ หรือพรรคการเมืองดังกล่าวไม่นำหลักฐานมาชี้แจง หัวหน้าพรรคการเมืองการดังกล่าวก็จะมีความผิดตาม พ.ร.ป การเลือกตั้ง ซึ่งมีโทษปรับ 20,000-100,00 บาท จำคุก 1-10 ปี และอาจจะต้องเว้นวรรคทางการเมืองอย่างน้อย 20 ปี ซึ่งเป็นหน้าที่ของ กกต. ที่ต้องไปสืบข้อเท็จจริง

นายศรีสุวรรณ ระบุว่าหากเข้าข่ายมีความผิดจริง จะเป็นโทษอาญาของกฎหมายเลือกตั้งปี 61 โดยทั่วไป กำหนดไว้ว่าถ้ามีการฝ่าฝืน ผู้ใดที่ฝ่าฝืนก็อาจมีความผิด มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท และเว้นวรรคทางการเมืองไม่เกิน 10 ปี แต่ถ้าพรรคการเมืองปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นในกรณีดังกล่าว ก็เป็นเรื่องของผู้ที่จัดทำมาขึ้นมาต้องรับผิดชอบ