“ฟิทช์ เรทติ้งส์” ทบทวน GDP 10 ประเทศพัฒนาแล้ว สหรัฐ-อังกฤษโดนปรับลด เซ่นพิษโควิด

161
0
Share:
"ฟิทช์ เรทติ้งส์" ทบทวน GDP 10 ประเทศพัฒนาแล้ว สหรัฐ-อังกฤษโดนปรับลด เซ่นพิษโควิด

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงสู่ระดับ AA+ จากระดับ AAA เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงอย่างหนักในวันดังกล่าว ขณะเดียวกันฟิทช์ได้ออกมาเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ด้วยการเตือนว่าอาจจะทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของจีนซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ A+เนื่องจากอัตราส่วนหนี้สินต่อตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งอาจจะนำไปสู่การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของจีนลงสู่ระดับ A

ล่าสุดในรายงานรายไตรมาสที่มีชื่อว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลก (Global Economic Outlook) ฟิทช์ได้ทบทวนตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในระยะกลางของประเทศในกลุ่มพัฒนาแล้วจำนวน 10 ประเทศ ซึ่งรวมถึงสหรัฐ อังกฤษ เยอรมนี และญี่ปุ่น

“ตัวเลข GDP ของประเทศขนาดใหญ่ในกลุ่มที่พัฒนาแล้ว จะไม่กลับไปขยายตัวได้ดีเท่ากับช่วงก่อนที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาด เศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างใหญ่หลวงจากภาวะชะงักงันทั่วโลกอันเนื่องมาจากโควิด-19 ระบาดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และคาดว่าวิกฤตขาดแคลนก๊าซในยุโรปจะยังคงส่งผลกระทบอย่างยาวนานต่อผลิตภาพทั้งในฝั่งอุปสงค์และอุปทาน”

“ผลกระทบเหล่านี้ ส่วนหนึ่งจะสะท้อนให้เห็นผ่านทางการสะสมทุน (capital accumulation) ที่ชะลอตัวลง, การลดลงของสัดส่วนทุนต่อแรงงาน (capital deepening) และผลิตภาพแรงงาน (labour productivity) นอกจากนี้ คาดว่าอัตราการมีส่วนร่วมในตลาดแรงงาน (labour force participation rates) ในสหรัฐและอังกฤษจะลดลงอย่างต่อเนื่อง” นายโคลตันกล่าว

เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ข้างต้นแล้ว ฟิทช์ได้ตัดสินใจปรับลดประมาณการการเติบโตในอนาคตของ GDP อังกฤษ เยอรมนี และญี่ปุ่น ลง 0.2 จุดเปอร์เซ็นต์ สู่ระดับ 1.2% 1.1% และ 0.5% ตามลำดับ และยังได้ปรับลดแนวโน้มการเติบโตในอนาคตของ GDP สหรัฐลง 0.1 จุดเปอร์เซ็นต์ สู่ระดับ 1.7%

อย่างไรก็ดี ฟิทช์ได้ปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตในอนาคตของ GDP อิตาลีและฝรั่งเศสขึ้น 0.1 จุดเปอร์เซ็นต์ สู่ระดับ 0.7% และ 1.2% ตามลำดับ โดยในกรณีของอิตาลีนั้น เป็นการสะท้อนถึงแนวโน้มการลงทุนที่ฟื้นตัวขณะเดียวกันฟิทช์ได้คงประมาณการการเติบโตในอนาคตของ GDP ออสเตรเลีย แคนาดา สวิตเซอร์แลนด์ และสเปน ไว้เท่าเดิมที่ระดับ 2.1% 1.5% 1.4% และ 1.4% ตามลำดับ