ฟ้องปิดล็อก! เจ้าของเครือโรงแรมดังในภูเก็ต ฟ้องนายกตู่-มท.-สธ-ผู้ว่า 242 ล้านบาท จากคำสั่งรัฐบาลปิดล็อกภูเก็ต

756
0
Share:
นายประพันธ์ บุญตันตราภิวัฒน์ เจ้าของโรงแรมในเครือบริษัท กมลาบีชอินท์ และบริษัท กัมพลธุรกิจ จำกัด ประกอบด้วยโรงแรม ภูเก็ต ทาวน์อินน์ โรงแรมกะรนวิว รีสอร์ท และโรงแรมกมลาบีชอินน์ เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2564 ได้ยื่นฟ้องกระทรวงสาธารณสุข นายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และกระทรวงมหาดไทย ต่อศาลปกครองกลางที่กรุงเทพฯ โดยมีอายุความ 1 ปีนับแต่ที่มีคำสั่ง
.
ขณะนี้อายุความหมดไปแล้ว ตนเป็นคนเดียวซึ่งฟ้องรัฐบาล เป็นผู้ประกอบการรายเดียวของภูเก็ตที่ยื่นฟ้องรัฐบาล แต่ตนคิดว่าผู้ประกอบการในภูเก็ตเป็นแสนคนซึ่งได้รับความลำบาก ในวันเดียวกันที่ยื่นฟ้อง ตนก็ได้นำสำเนาเอกสารส่งไปยังกระทรวงสาธารณสุข และในวันที่ 23 มีนาคม 2564 ทางกระทรวงสาธารณสุขมีเอกสารตอบรับตนมาว่ารับทราบในวงเงิน 84 ล้าน จากวงเงินทั้งหมด 242 ล้านบาทที่ต้องยื่นฟ้องไป
นับตั้งแต่วันฟ้องจนถึงวันนี้ ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก แต่คดีนี้ได้โอนมาที่ศาลปกครองจังหวัดภูเก็ตแล้ว ทั้งนี้ ที่ยื่นฟ้องเป็นความเสียหายตั้งแต่วันแรกที่ทางจังหวัดภูเก็ตประกาศปิดโรงแรม จนถึงบัดนี้รวมระยะเวลา 18 เดือน
.
นายประพันธ์ บุญตันตราภิวัฒน์ เจ้าของโรงแรมในเครือบริษัท กมลาบีชอินท์ และบริษัท กัมพลธุรกิจ จำกัด กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลไม่เคยสนใจ ไม่เคยที่จะมาอุดหนุนในกรณีที่ภูเก็ตถูกสั่งปิดมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำเฉย ความเดือดร้อน รายได้ที่ลดลงไป คนไม่มีจะกินถามว่าใครจะรับผิดชอบ รัฐบาลเปิดภูเก็ตวันที่ 1 ก.ค.64 ธุรกิจส่วนใหญ่ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ก็ยังไม่ฟื้น ไปไม่รอด เพราะว่ารัฐบาลไม่มีมาตรการอะไรที่มาช่วยภูเก็ต แต่รัฐบาลช่วยที่จังหวัดอื่นได้ เหมือนที่กรุงเทพ ในเร็วๆ นี้กระทรวงการคลังอนุมัติเงินออกมา 2,500 ล้านบาทช่วยผู้ประกอบการในกรุงเทพฯ แต่ทำไมในภูเก็ตรัฐถึงไม่ช่วย ภูเก็ตเป็นจังหวัด ซึ่งเสียภาษี นำภาษี เข้าส่งส่วนกลางเยอะมาก แต่เวลานี้ ตอนนี้รัฐบาลช่วยอะไรคนภูเก็ตบ้าง ตนคิดว่าคนภูเก็ตตอนนี้เดือดร้อนหนักรัฐบาลต้องช่วยทุกๆ คน เพราะทุกๆ คน ก็เป็นคนไทย ไม่ใช่เลือกที่จะช่วย” นายประพันธ์ กล่าว และว่า
.
ตอนนี้สถาบันการเงินทุกแห่งทุกประเภท ทั้งไฟแนนซ์ ธนาคาร ก็มาไล่เงินกับลูกหนี้ ซึ่งเป็นประชาชน รัฐบาลต้องมีกฎหมายชะลอการบังคับคดี ชะลอการฟ้องคดี ชะลอการขายทอดตลาด ตนคิดว่าน่าจะใช้เวลาสัก 2-3 ปีเพื่ออย่าให้ประชาชนทุกข์มากเกินไป ตนทำเอกสารเสนอผู้ใหญ่ไปว่าขอให้ชะลอการฟ้องคดี การบังคับคดี การขายทอดตลาด ทรัพย์สินของลูกหนี้ ตอนนี้ไม่มีใครมีเงินเพราะเราไม่ได้ทำงาน 18 เดือน หรือ 1 ปี ครึ่ง และยังไม่รู้ว่าสถานการณ์โควิดจะจบเมื่อไหร่”
.
“การที่มีคำสั่งปิดธุรกิจโรงแรมทุกประเภทที่ผ่านมานั้น ทางจังหวัดภูเก็ตและรัฐบาลไม่ได้มีมาตรการช่วยเหลือหรือชดเชยรายรับที่หายไปแต่อย่างใด ในระยะเวลาที่มีคำสั่งให้ปิดนั้นโรงแรมของตนมีแต่รายจ่ายในทุกๆ เดือน โดยไม่เคยได้รับการชดเชยจากภาครัฐ หากโรงแรมจะเปิดบริการอีกครั้งต่อหาเงินมาเตรียมการเปิดเพื่อความสมบูรณ์ของโรงแรมที่มีให้กับแขกที่จะมาพัก มาซ่อมแซมเตรียมการ แม่ที่ผ่านมาภาครัฐจะมีประกาศให้สถาบันการเงินในประเทศช่วยเหลือผู้ประกอบการแต่สิ่งที่เกิดขึ้นผู้ประกอบการไม่สามารถเข้าถึงแห่งเงินทุนต่างๆ ได้ มีแต่สถาบันการเงินเล่นงานหรือฟ้องร้อง บังคับคดีกับผู้ประกอบการโรงแรมต่างๆ