มนุษย์เงินเดือนสายธนาคารในฮ่องกงเจอ 2 เด้ง จ่อโดนปลดออก 2 ปีซ้อน ตกงาน 200 คนในปีผ่านมา
บลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยข้อมูลเศรษฐกิจการเงินการลงทุนของสำนักข่าวบลูมเบิร์กชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยโดยนายฟรานซิส ชาน นักวิเคราะห์อาวุโส ว่าตลอดทั้งปี 2023 ผ่านมา พนักงานธนาคารในสายงานวาณิชธนกิจ หรือ Investment Bankers ในฮ่องกงซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินสำคัญแห่งหนึ่งของเอเชียและของโลกถูกปลดออกจากงาน 200 คน ในขณะที่ปี 2024 นี้ พนักงานในสายงานดังกล่าวยังต้องเผชิญการถูกปลดออกจากงานต่อเนื่อง
สาเหตุจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะในสายงานวาณิชธนกิจ มีรายได้ที่ตกต่ำอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นผลจากการเจรจาควบรวม หรือซื้อขายกิจการในเอเชียลดน้อยถอยลง ตลาดหุ้นไอพีโอ หรือการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงชะลอตัวอย่างมาก ในปีที่ผ่านมา พบว่าผลกำไรจากการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง หรือตลาดหุ้นไอพีโอดำดิ่งหนักสุดในรอบ 20 ปี ในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ ปรากฏว่ามูลค่าการระดมทุนด้วยหุ้นไอพีโอร่วงหนักมากอีก -29% มาเหลือเพียง 605 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 22,385 ล้านบาท ทำสถิติเลวร้ายที่สุดในรอบวิกฤตเศรษฐกิจการโลกในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2008 หรือในรอบ 16 ปี
ภาวะเศรษฐกิจจีนชะลอตัวและซบเซาต่อเนื่อง ดังนั้นธนาคารพาณิชย์ล้วนตัดลดค่าใช้จ่ายลงต่อเนื่อง ที่สำคัญ คือ การจ่ายรายได้ผลตอบแทนให้กับพนักงานสายงานวาณิชธนกิจของบรรดาธนาคารในฮ่องกงนั้น จ่ายสูงกว่าตั้งแต่ 40-70% เมื่อเปรียบเทียบกับการจ่ายรายได้ผลตอบแทนของธนาคารพาณิชย์ในสิงค์โปร์ ซึ่งเป็นคู่แข่งศูนย์กลางการเงินของเอเชียและของโลกกับฮ่องกงมาเป็นเวลานาน ด้านเฮย์ เอเชีย เปิดเผยผลสำรวจเมื่อปลายปี 2023 พบว่า พนักงานในตำแหน่งนักวิเคราะห์วาณิชธนกิจในฮ่องกงได้รับการจ่ายรายได้ผลตอบแทนระหว่าง 30% ถึง 100% สูงกว่าที่จ่ายในสิงค์โปร์ จีนแผ่นดินใหญ่ และญี่ปุ่น สอดรับกับ ตำแหน่งผู้อำนวยการ และกรรมการผู้จัดการได้รับการจ่ายรายได้ผลตอบแทนระหว่าง 40% ถึง 70% สูงกว่าที่จ่ายใน 3 ประเทศดังกล่าว
นับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนผ่านมา ธนาคารพาณิชย์ชื่อดังระดับโลกได้ประกาศปลดพนักงานในสายงานวาณิชธนกิจออกเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุจากปัญหาความขัดแย้งทั้งการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศของจีนกับสหรัฐอเมริกา รัฐบาลจีนใช้มาตรการกวาดล้างธุรกิจต่างชาติที่เค้าข่ายสร้างความไม่มั่นคงให้กับจีน วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่เรื้อรัง โดยเฉพาะในเดือนเมษายนนี้ ธนาคารเอชเอสบีซี และธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์ เป็น 2 ธนาคารชื่อดังระดับโลกปลดพนักงานในเดือนเมษายนนี้
ทั้งนี้ ตลาดตราสารหนี้ในฮ่องกงที่เสนอออกขายในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง ล้วนตกต่ำอย่างมากจากที่เคยคึกคักทำสถิติสูงสุดในปี 2020 หรือเมื่อ 4 ปีผ่านมา
