มาเลเซียขาดแคลนข้าว ราคาข้าวตลาดโลกแพงจัด ผลิตข้าวในประเทศก็ไม่ทัน ทุ่มงบประมาณวิจัย
นายอาเมียร์ อาลิ ไมดิน กรรมการผู้จัดการ เครือข่ายร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตชื่อดังว่า ไมดิน ยักษ์ใหญ่ในประเทศมาเลเซีย เปิดเผยว่า ขณะนี้เกิดภาวะข้าวเพื่อการบริโภคขาดแคลนในประเทศโดยเฉพาะตามช่องทางขายปลีกและขายส่งในประเทศมาเลเซีย ในทุกวันนี้ ข้าวถุงขนาด 5 กิโลกรัม และขนาด 10 กิโลกรัม ที่ผลิตในประเทศมาเลเซียไม่สามารถพบได้บนชั้นวางจำหน่ายข้าวถุงตามร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านขายปลีกขนาดเล็ก เช่น โชห่วย ทั่วไป เนื่องจากมีลูกค้าหรือผู้บริโภคแห่มาซื้อข้าวถุงเป็นจำนวนมากไปกักตุน ทำให้ไม่มีสินค้าข้าวถุงวางจำหน่าย จนกว่าจะมีสต็อกข้าวถุงใหม่เข้ามาเติมบนชั้นวางขายสินค้า
รัฐบาลมาเลเซีย เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ข้าวเพื่อบริโภคขาดแคลนเกิดขึ้นจากสาเหตุภาวะราคาข้าวตลาดโลกมีราคาสูงในรอบหลายสิบปีต่อเนื่อง ทำให้กระทบราคาข้าวเพื่อบริโภคในประเทศ ในขณะที่การผลิตข้าวภายในประเทศสามารถตอบสนองได้เพียง 70% ของการบริโภคภายในประเทศ ท่ามกลางรัฐบาลพยายามเปิดโครงการเพิ่มผลผลิตข้าวในประเทศให้สูงมากขึ้น
นอกจากนี้ ช่องว่างหรือส่วนต่างราคาข้าวตลาดโลกเทียบกับราคาข้าวที่ผลิตในประเทศมีความห่างกันมาก ก่อนหน้านี้ เบอร์นาส กลุ่มอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ระดับประเทศสัญชาติมาเลเซีย ที่มีความหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งควบคุมช่องทางการจัดจำหน่ายข้าว ปรับขึ้นราคาขายข้าวนำเข้าจากต่างประเทศสูงถึง 36% จากราคาปกติ เนื่องจากราคาข้าวตลาดโลกมีราคาแพงในรอบ 15 ปี ส่งผลให้ประชาชนชาวมาเลเซียหันมาเพิ่มความต้องการซื้อข้าวในประเทศสูงมากขึ้น ปัจจุบันราคาข้าวขาวนำเข้าจากต่างประเทศมีราคาสูงถึง 30-70 ริงกิตต่อข้าวถุงขนาด 10 กิโลกรัม หรือระหว่าง 234-546 บาทต่อถุงขนาด 10 กิโลกรัม
ปัจจุบัน ข้าวเพื่อการบริโภคชนิดข้าวขาวในประเทศมาเลเซียถูกควบคุมราคาขายที่ถุงละ 26 ริงกิต หรือถุงละ 5.54 ดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่เกิน 203 บาทต่อขนาดถุงละ 10 กิโลกรัม รัฐบาลมาเลเซียสั่งซื้อข้าวด้วยการนำเข้าข้าวขาวจากประเทศอินเดีย ปากีสถาน กัมพูชา เวียดนาม และไทย
นายชานฟุงฮิน ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงอาหารและเกษตร ประเทศมาเลเซีย เปิดเผยว่ารัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาภาวะขาดแคลนข้าวเพื่อบริโภคในประเทศด้วยการเปิดโครงการเพิ่มผลิตข้าวต่อไร่จากปัจจุบันที่เฉลี่ย 5 ตันต่อเฮคเตอร์ ขึ้นเป็นเฉลี่ย 7 ตันต่อเฮคเตอร์ หรือราว 1,120 กิโลกรัมต่อไร่ นอกจากนี้ เตรียมเพิ่มงบประมาณลงทุนงานวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวใหม่ที่สามารถเพาะปลูกใน 75 วัน ที่มีความสามารถต้านทานสภาพอากาศที่เลวร้าย และโรคระบาดต่างๆได้ดี
นอกจากนี้ รัฐบาลมาเลเซียเตรียมเปิดโครงการเพิ่มรายได้ของเกษตรชาวนาในช่วงฤดูกาลปลูกข้าว 5 ฤดูกาลภายใน 2 ปีข้างหน้า ด้วยการเพิ่มผลิตต่อไร่สูงมากขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายอัตราการผลิตข้าวอย่างพอเพียงที่ 80% ภายในปี 2023 หรืออีก 7 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ เอฟเอโอ (FAO) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาข้าวโลกในเดือนสิงหาคม 2023 เพิ่มขึ้นแตะที่ระดับ 142.2 ซึ่งพุ่งทะยานขึ้นถึง 31% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา
